22 มิถุนายน 2551

When You Wish Upon a Star ดวงดาว แค่เปลี่ยนที่ก็พร่างพราวบนฟ้า


คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

มีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการ์ตูนที่ข้องใจไม่หายตั้งแต่เด็กค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการ์ตูนประเภทหนึ่งซึ่งน้องชายอ่านแล้ว "สนุกมากๆ!" ในระหว่างที่ฉันเองอ่านแล้วรู้สึกว่า "ก็ดี" ชื่อของการ์ตูนเรื่องนั้นคือ Winter Story (Fuyu Monogatari) ซึ่งสนุกจริง เพราะได้รับรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมประจำปี 1988 ของสำนักพิมพ์โชกักกุคังเป็นประกัน

ในตอนนั้นยังไม่รู้ว่าการ์ตูนประเภทนี้แตกต่างจากการ์ตูนทั่วไปอย่างไร นานวันเข้า การ์ตูนทำนองนี้เริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นและขยายวงกว้าง สูตรสำเร็จนั้นคล้ายคลึงกันทุกเรื่อง ถ้านึกถึงการ์ตูนโรมานซ์ของผู้หญิงค่ายฮาเลควินที่ทุกเรื่องพล็อตเดียวกันหมด หญิงสาวตกหลุมรักชายหนุ่มหล่อ รวย เพอร์เฟ็คต์ และเป็นเพลย์บอย สุดท้ายพ่อปลาไหลก็พบว่ารักแท้ในชีวิตแสนเลิศของเขาคือนางเอกผู้ไม่มีอะไรดีนอกจากรักเขาเท่านั้นเอง

การ์ตูนโรมานซ์ของผู้ชายก็คล้ายกันค่ะ เพียงแต่กลับกลายเป็นชายหนุ่มผู้พ่ายแพ้ทุกอย่างในโลกกลับชนะใจหญิงสาวสวย ดี เก่ง เพอร์เฟ็คต์แทน เรียกว่าเป็นยุคเริ่มต้นของการ์ตูนฮาเร็มก็คงไม่ผิด "รหัสรักจากดวงดาว" When You Wish Upon a Star. คือผลงานของ "ฮาระ ฮิเดโนริ" ผู้เขียน Winter Story นี่ล่ะค่ะ

เขาเขียนเรื่องได้หลากหลายแนว แต่สุดท้ายแนวที่ดังที่สุดก็ไม่พ้นโรมานซ์ฉบับผู้ชายแบบนี้ "โคทาโร่" เด็กหนุ่ม ม.5 แห่งโรงเรียนสาธิตชื่อดังในโตเกียว จำเป็นต้องย้ายมาเรียนในโรงเรียนประจำจังหวัดแสนบ้านนอกด้วยเหตุผลคือ เขาสอบเลื่อนชั้นขึ้น ม.6 ไม่ได้ ทางโรงเรียนพยายามบีบให้ออก และพ่อแม่เองก็อับอาย ในที่สุดเขาจึงต้องมาอาศัยอยู่กับญาติของญาติของญาติซึ่งไม่เคยรู้จักมักจี่กันเลย

ภาพของโคทาโร่ที่มองตัวเองคือ "Loser" หรือผู้พ่ายแพ้ต่อชะตากรรม ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องสังคม เขาทำไม่ได้สักอย่าง กระทั่งย้ายโรงเรียนมาแล้วปาฏิหาริย์ก็ยังไม่เกิดขึ้น เขายังเรียนแย่ไม่ต่างจากเดิม แม้ว่าจะพยายามแล้วก็ตาม เมื่อเผชิญปัญหา โคทาโร่จึงนึกถึงแต่หนทางหนีมากกว่าจะสู้กับมันตรงๆ

บุคลิกแบบนี้ทำให้ "นางิสะ" สาวน้อยข้างบ้านไม่พอใจเขาเท่าไร "นางิสะ" เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงที่มีความสามารถมาก สวยและน่ารักอีกต่างหาก ผู้ชายเกรดเอในโรงเรียนสารภาพรักกับเธอหลายคน แต่โดนสลัดไม่ไยดี เหตุผลคือเธอต้องรับผิดชอบครอบครัวซึ่งเพิ่งสูญเสียคุณพ่อไป ทำให้เธอเลิกเล่นบาสเกตบอลและหันมาดูแลบ้านและน้องๆ ในระหว่างที่คุณแม่เป็นนางพยาบาลต้องอยู่เวร

ข้อดีของนางิสะ (และเป็นข้อดีของนางเอกการ์ตูนโรมานซ์ของผู้ชายทุกเรื่อง) คือเธอ "ไม่เคยดูถูกคน" แม้จะเกลียดก็ว่ากันด้วยเหตุผลตรงๆ ซึ่งถ้าฝ่ายชายรับฟังเธอก็จะหายเกลียดได้เหมือนปิดสวิตช์

วันหนึ่งเธอชี้ดวงดาวให้โคทาโร่ดู ดาวบางดวงไม่เคยได้ส่องแสงในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว แต่เมื่อเปลี่ยนที่มาอยู่บนท้องฟ้าของต่างจังหวัด กลับส่องประกายได้อย่างงดงาม โคทาโร่เองก็เช่นกัน เขาคือดวงดาวที่ยังรอวันส่องประกายนั่นเอง แต่แม้จะประทับใจในตัวนางิสะแค่ไหน ความรักย่อมไม่บังเกิด เพราะนางเอกของเรื่องต้องมี "คนรักผู้ครองหัวใจ" อยู่ก่อนแล้ว

มาถึงตรงนี้ไม่ต้องคิดมากค่ะ พล็อตแบบเดิมจะนำเราไปสู่ความแตกแยกของนางเอกกับชายในฝัน พระเอกเข้าไปปลอบ สุดท้ายก็รักกัน...จบ!

แม้จะเดาได้ตั้งแต่พลิกหน้าแรกขึ้นมา แต่เสน่ห์ของการ์ตูนโรแมนซ์คือ ดึงเราให้ดำลงสู่โลกของความฝันสีชมพู เพราะรู้ว่าชีวิตจริงไม่มีทางโชคดีได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่างน้อยขอฝันในโลกของการ์ตูนซักนิดก็ยังดี และเนื่องจากเป็นฝันของผู้ชาย จึงไม่แปลกที่ผู้หญิงอ่านแล้วรู้สึกไม่เร้าใจเท่าไร หงุดหงิดนิดๆ เสียด้วยค่ะ

ผู้ชายบ้าอะไรปวกเปียกเป็นเต้าหู้ขนาดนั้น มองในมุมกลับกันคือ ถ้าหญิงสาวทำความเข้าใจกับฝันของชายหนุ่มและเข้าใจได้ ความรักกับแฟนหนุ่มในชีวิตจริงก็จะราบรื่นไปด้วยค่ะ

สิ่งที่ทำให้คู่รักหลายคู่เลิกรากันเพราะคิดว่าความรัก "ควรจะเป็นอย่างนี้" โดยไม่มองความเป็นจริงว่า แฟนเราไม่ใช่พระเอกนางเอกนิยายเสียหน่อย แต่แทนที่จะมองแต่ความเป็นจริงที่โหดร้ายแล้วยอมรับทั้งน้ำตา เรามามองความฝันของแฟนเราแล้วเปลี่ยนตัวเองให้เป็นนางเอกการ์ตูนดีกว่าค่ะ รับฟัง ใจเย็น ซื่อตรง และไม่ดูถูกคน...แม้จะฟังดูการ์ตูนไปหน่อย แต่ก็เป็นคุณสมบัติที่ดีไม่เลวเลยใช่ไหมคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น