คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง
วันนี้ไปฟังประชุมวิชาการหัวข้อ "วิธีการรับมือกับเด็กเลี้ยงยาก" ซึ่งผู้บรรยายอธิบายไว้อย่างดีค่ะว่าเด็กที่เลี้ยงไม่ง่ายนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ธรรมชาติของเด็กเอง (Temperament) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและไม่สามารถเปลี่ยนได้ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่เหลือซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ "การเลี้ยงดู" ค่ะ
อาจารย์ผู้บรรยายยกตัวอย่างเด็กที่ก้าวร้าวว่าอาจเกิดจากโรคบางอย่าง (เช่น โรคสมาธิสั้น หรือความผิดปกติของสติปัญญา) หรืออาจจากสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ฉากบู๊ในโทรทัศน์ ในเกมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ในบ้านเอง (ระหว่างพ่อกับแม่) ความรุนแรงในเกมนั้นดูจะเด่นชัดที่สุดเนื่องจากเกมตระกูลแอ๊คชั่นชู้ตติ้ง หรือยิงเยอะได้เยอะนั้นเป็นที่นิยมอย่างสูงโดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ ที่ไม่สันทัดการใช้สมองคิดซับซ้อน มีสัตว์ประหลาดเดินมาเราก็ยิงทิ้งก็พอ ยิ่งยิงได้เยอะ เลือดสาดเต็มจอเท่าไร คะแนนก็สูงเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ปลูกฝังความรุนแรงลึกๆ ในใจของเด็กแน่นอนค่ะ
ยิ่งเหมือนจริงมากเท่าไร ภาพเหล่านั้นก็ยิ่งติดตามากขึ้นเท่านั้นและหนึ่งในเกมเลือดสาดสุดมันที่สุดเกมหนึ่งของยุคคือ Devil May Cry แอ๊คชั่นชู้ตติ้งแนว bad boy ที่ยิงกันหูดับตับไหม้ตั้งแต่เริ่มเกมยันจบเกม พล็อตเรื่องไม่ต่างจากแฟนตาซีทั่วไป แต่ตัวละครมีเสน่ห์และโด่งดังจนกระทั่งนำมาสร้างเป็นแอนิเมชั่นซีรีส์ (ภาพยนตร์การ์ตูนหลายตอนจบ) ฉายทางโทรทัศน์ญี่ปุ่น และแน่นอนว่าเลือดท่วมจอตามคาด
Devil May Cry นำเกมโดย "ดันเต้" ชายหนุ่มผู้มีอาชีพนักล่าปีศาจรับจ้างผู้โปรดปรานพิซซ่า เขามีความพิเศษจากที่มีสายเลือดปีศาจอยู่ครึ่งหนึ่งจึงแข็งแกร่งเทียบเท่าปีศาจแต่ก็มีคุณธรรมอยู่บ้าง นอกจากนั้น ฝาแฝดของเขา "เวอร์จิล" แม้จะอยู่คนละฝ่ายแต่ก็มีบทบาทมากเช่นกัน เพียงแต่รู้สึกว่าจะไม่ปรากฏในการ์ตูนเท่านั้นเองสำหรับคนที่เคยเล่นเกมคงพอจำได้ว่าเปิดมาก็ยิงระเบิดเถิดเทิงอยู่เป็นนาที ฆ่าปีศาจไปกองเท่าภูเขา ในแอนิเมชั่นต่างกันนิดหน่อยค่ะ แม้จะเริ่มด้วยฉากยิงปีศาจเช่นกัน แต่แอนิเมชั่นดูสงบและมีคลาสกว่านั้นเยอะ แต่ยังคงความโหดแบบในเกมไว้ไม่เปลี่ยน
พูดง่ายๆ คือต้องมียิงตาเหลือก เลือดสาดหัวทะลุ เหมือนจริงเสียจนบางทีก็กลัว แต่เสียงพากย์หล่อดี เนื้อเรื่องลื่นไหลไม่ติดขัด รวมๆ คือใช้ได้แม้จะโหดไปนิดสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ตามDevil May Cry โปรดัคชั่นจากบริษัท Mad House ผู้โด่งดังจากเดธโน้ตค่ะดังนั้น จึงรับประกันว่างานภาพไม่มีคำว่าด้อย ลำดับภาพและการนำเสนอชวนให้เราเมากลิ่นเลือดและความตายจนบางทีชักรู้สึกไม่อยากกินเลือดหมู แต่ถึงกระนั้นก็ยังดึงความเป็นผู้รักความยุติธรรมและช่วยเหลือมนุษย์ของดันเต้ออกมาได้อย่างดีทีเดียว
แอนิเมชั่น Devil May Cry มี 12 ตอนสำหรับซีซั่นแรกค่ะ มีกำหนดออกอากาศเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทาง WOWOW TV ในประเทศญี่ปุ่นช่วง 5 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาที่จัดว่าไม่ดึกมากสำหรับการ์ตูนญี่ปุ่น (ถ้าดึกมากๆ ต้องหลังเที่ยงคืน)
หลังจากดูจบตอนแรกก็นึกย้อนไปถึงสิ่งที่อาจารย์ผู้บรรยายพูดเมื่อกลางวันว่าสื่อทุกชนิด ทั้งเกมและภาพยนตร์ล้วนมีอิทธิพลต่อเด็กทั้งนั้น หลายท่านคิดขึ้นมาทันทีว่าในเมื่อดูการ์ตูนรุนแรงแล้วเด็กอาจใช้ความรุนแรงไปด้วย ดังนั้น ก็ไม่ให้ดูเสียเลยสิ
แต่อาจารย์ท่านพูดได้น่าฟังกว่านั้นค่ะ"ไม่มีอะไรที่ไม่ดีสำหรับเด็ก รายการโทรทัศน์ที่มีความรุนแรงก็ใช่ว่าจะดูไม่ได้เลยทั้งหมด เพราะนั่นคือความ "ไม่ถูกต้อง" ที่เราสามารถสอนเด็กได้เช่นกัน" กลายเป็นว่าถ้าเด็กดูหนังบู๊แล้วตัวเองบู๊ด้วย ความผิดของหนังแค่ครึ่งเดียวค่ะ อีกครึ่งคือตัวผู้ปกครองที่ไม่ได้สอนให้เด็กรู้ว่าสิ่งนั้นไม่เหมาะสมอย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีข้อห้ามแต่บางสื่อก็ไม่เหมาะกับเด็กบางอายุจริงๆ ค่ะDevil May Cry สมควรถูกจัดไปฉายช่วงดึกอย่างยิ่ง เพราะถ้าเด็กดูแล้วต้องฝันร้ายแน่นอน ทั้งปีศาจ ทั้งเลือด และฉากฆ่ากันตายที่แม้จะสอนอย่างไรก็น่ากลัวเกินกว่าจะลบภาพคนตายออกจากหัวได้หมดค่ะ ดังนั้น...เด็กๆ ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองโดยการเลือกไม่ดูด้วยนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น