04 ตุลาคม 2551

Osen ศิลปะที่ปลายลิ้น

คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

ช่วงหลังมีทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ในญี่ปุ่นที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เดาว่าการนำผลงานที่ได้รับความนิยมมาสร้างย่อมได้เปรียบกว่าสร้างจากบทภาพยนตร์ใหม่เอี่ยมที่ไม่มีใครรู้จัก นั่นก็เพราะอย่างน้อยต้องมีแฟนผลงานเดิมเป็นฐานลูกค้าจำนวนหนึ่งแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าผลงานที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนจะประสบความสำเร็จทุกเรื่องนะคะ บางเรื่องดูแล้วคิดว่าผู้สร้างภาพยนตร์ยังมี "กึ๋น" ไม่พอที่จะถ่ายทอดเหมือนกัน

"โอเซน" คือละครโทรทัศน์ที่ฉาย 10 ตอนทาง NTV ในญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายนปีนี้ค่ะ นับว่าสั้นจนน่าตกใจ ทั้งที่ฉบับหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้สนุกและทำได้ดีจนทำให้คนอ่านอยากกินอาหารญี่ปุ่นแทบจะทันทีหลังอ่านจบ

โอเซนคือชื่อเล่นของ "ฮันดะ เซน" สาวน้อยผู้สืบทอดร้านอาหารญี่ปุ่นแบบหรูหราดั้งเดิม "อิชโชอัน" เธอได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้ชื่นชมในความเป็นญี่ปุ่น ดังนั้น เธอจึงสวมแต่กิโมโนตลอดเวลา และอยู่ในบ้านที่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัยเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ขนาดโทรศัพท์ของที่ร้านยังเป็นรุ่นหมุนเบอร์แบบโบราณเลยค่ะ อยู่มาวันหนึ่ง "เอซากิ โยชิโอะ" ซึ่งโอเซนเรียกอย่างนับถือผสมเอ็นดูว่า "คุณโย้จจัง" ก็เดินเข้ามาขอสมัครทำงานที่ร้าน ก่อนหน้านี้เอซากิทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารแนวฟิวชั่น ซึ่งเน้นความตื่นตาตื่นใจในการกินมากกว่ารสชาติแท้จริง ความที่เขาฝึกฝนการทำอาหารมาแต่เด็ก การทำงานโดยเห็นความสำคัญของรสชาติเป็นอันดับสองทำให้เขาเบื่อหน่าย ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจลาออกและไปสมัครงานที่ร้านอิชโชอันซึ่งเขาเคยไปรับประทานกับคุณพ่อเมื่อยังเด็ก และจำได้ว่าเจ้าของร้านในขณะนั้นบอกว่าหากเขาต้องการเป็นพ่อครัว ก็ให้มาทำงานที่ร้านได้

แต่กลายเป็นว่าเจ้าของร้านที่เอซากิเจอคือโอเซน ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้โอเซนรับเอซากิทำงานเป็นลูกมือล้างจานทั้งที่เขาไม่มีความเป็นมืออาชีพในการทำอาหารเอาเสียเลย แค่ให้ลองแล่ปลาเขาก็ทำพลาดด้วยการใส่แหวนขณะแล่จนเนื้อปลาช้ำ ในระหว่างที่ทุกคนมองว่าเอซากิไร้ประโยชน์ ตัวเอซากิเองกลับคิดว่าเขาถูกกดขี่ด้วยการให้ทำงานเยี่ยงทาสแลกที่พักกับอาหารและค่าแรงแสนถูก เขาจึงขอลาออกจากร้านหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อค้นพบสัจธรรมของอาหารญี่ปุ่นในอิชโชอันที่อาศัยความอดทนและพิถีพิถันในการทำ เขาก็กลับมาตายรังทุกครั้งไปละครนำเสนอความขัดแย้งระหว่างอาหารในความคิดของคนสมัยใหม่กับอาหารดั้งเดิมเป็นประเด็นหลัก เช่นตอนหนึ่งที่ผู้จัดรายการโทรทัศน์เชิญโอเซนไปออกรายการแข่งทำอาหารกับปรมาจารย์การทำอาหารด้วยไมโครเวฟที่ประหยัดเวลาแต่รสชาติเหมือนนั่งเหลา แม้โอเซนจำใจช่วย แต่เธอก็ยังคงปรุงอาหารแข่งด้วยวิธีดั้งเดิมของเธอ ละเมียดซอยต้นหอมญี่ปุ่นอย่างใจเย็น และปรุงด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขพร้อมกับภาวนาให้อาหารออกมาอร่อยถูกใจผู้รับประทาน

ทุกอย่างในละครลงตัวหมดค่ะ ทั้งผู้แสดงที่ดังทะลุฟ้าอย่าง "อาโออิ ยู" ซึ่งรับบทโอเซน และ "อุจิ ฮิโรคิ" รับบทเอซากิ สถานที่ถ่ายทำได้บรรยากาศญี่ปุ่นแท้สวยงาม อาหารปรุงออกมาดูน่ากิน และกิโมโนทุกตัวของโอเซนสวยหาที่ติไม่ได้ แต่ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกๆ ก็สนุกดีค่ะ แต่ยิ่งดูยิ่งเหมือนละครทั่วๆ ไปซึ่งมุ่งจะคลายปมในเรื่องให้กระจ่างมากกว่าเน้นความโดดเด่นของตัวละคร ตอนอ่านการ์ตูนเราจะรู้สึกว่าโอเซนเป็นผู้หญิงที่ "เท่ชะมัด" ส่วนเอซากิก็เป็นผู้ชายธรรมดาที่ "มีเสน่ห์แบบธรรมดา" ความสุดขั้วของสองคนนี้คือสิ่งที่ทำให้เนื้อเรื่องดำเนินไปได้ ไม่ใช่ปัจจัยอื่นๆ ภายนอกอย่างที่ปรากฏในละคร

แม้จะไม่ประสบความสำเร็จล้นหลามแบบละครที่สร้างจากการ์ตูนอีกหลายเรื่อง แต่ "Osen" ก็ทำให้ภาพความหรูหราดูสมจริงมากขึ้น อาจจะสมจริงเกินไปจนต่อยอดจินตนาการไม่ค่อยออกค่ะ เป็นเรื่องแปลกที่ดูละครแล้วไม่หิว แต่อ่านการ์ตูนแล้วหิวจนท้องร้อง

คิดแล้วก็อยากอ่านเรื่องนี้ในฉบับหนังสือการ์ตูนต่อจริงๆ ค่ะ น่าเสียดายที่สำนักพิมพ์ในไทยหยุดไปนานจนเกือบลืม แต่ก็หวังว่าสักวันจะกลับมาพิมพ์อีก ไม่บ่อยนักที่อ่านการ์ตูนแล้วได้กลิ่นหอมของอาหารลอยออกมาจากหน้าหนังสือได้ Osen คือหนึ่งในการ์ตูนไม่กี่เรื่องที่กระตุ้นประสาทสัมผัสได้อย่างน่าทึ่งค่ะ

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11166 มติชนรายวัน

ไม่มีความคิดเห็น: