คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง
ตอนนี้ในลอนดอนมีแต่ฝน หมอก มืด และความหนาวค่ะ บรรยากาศเช่นนี้เหมาะกับการดูการ์ตูนที่ทำให้หัวใจเบิกบานพองโตและการ์ตูนที่ได้ดูด้วยความบังเอิญคือ Whisper of the Heart ภาพยนตร์การ์ตูนที่ฉายในปี 1995 ในญี่ปุ่น (14 ปีก่อน) และนำมาใส่ระบบเสียง Dolby Digital โดยค่าย Buena Vista ก่อนออกฉายในอเมริกาเหนือเมื่อต้นปี 2006 นี่เอง
Whisper of the Heart เปิดเรื่องในเมืองเล็กๆ "ทามะนิวทาวน์" ซึ่งกำลังถึงจุดเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนระบบยืมหนังสือในห้องสมุดจากการใช้กระดาษเป็นบาร์โค้ด "ชิสึคุ" เด็กสาวทราบเรื่องนี้จากคุณพ่อซึ่งเป็นบรรณารักษ์ เธอจึงหยิบกระดาษยืมหนังสือที่ท้ายเล่มมาดูและเพิ่งสังเกตว่าทุกเล่มที่เธอยืมมามีชื่อของ "อามาซาวะ เซอิจิ" เขียนยืมก่อนเธอ เด็กสาววัยสิบสี่ซึ่งหลงใหลโลกของหนังสือที่เต็มไปด้วยจินตนาการจึงเริ่มคิดภาพเซอิจิและใฝ่ฝันที่จะได้พบตัวจริงสักครั้ง นอกจากระบบบาร์โค้ดซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนไปสู่การพัฒนาแล้ว หัวใจของชิสึคุก็มาถึงจุดเปลี่ยนด้วยภาพของเซอิจิในจินตนาการเช่นกัน
ด้วยความบังเอิญหรืออาจจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตของชิสึคุ เธอได้พบกับแมวอ้วนท่าทางกวนๆ ในรถไฟ แมวฉลาดตัวนั้นลงป้ายเดียวกับเธอและวิ่งตรงไปทางห้องสมุดซึ่งเธอต้องเอาข้าวกล่องไปให้คุณพ่อเช่นกัน ชิสึคุนึกสนุกตามไปและได้พบกับร้านขายของแอนทีค "The Earth Shop" ซึ่งมีคุณปู่ "นิชิ" ที่ใจดีดูแล ที่นั่นเธอได้พบกับตุ๊กตาสูงกว่าไม้บรรทัดที่ศีรษะเป็นแมวแต่ตัวเป็นคนในชุดทักซิโด้ตามแบบสุภาพบุรุษยุโรป ตุ๊กตาตัวนั้นคือ "บารอนฮัมเบิร์ต" บางอย่างในดวงตาแวววาวของบารอนทำให้ชิสึคุถูกดึงไปสู่โลกแห่งจินตนาการที่มีคนแคระและนางฟ้า เธอก้าวไปสูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้วสำหรับจินตนาการ แต่กลายเป็นถอยหนึ่งก้าวจากความเป็นจริง
ชิสึคุกลับไปร้านขายของแอนทีคอีกครั้งเพราะอยากพบกับบารอนซึ่งในความคิดของเธอเต็มไปด้วยเรื่องราวในจินตนาการที่บารอนเป็นตัวเอกอัดแน่นจนแทบระเบิด เธอเป็นนักอ่านที่ดีมานานและคนที่ทำให้เธอคิดว่าได้เวลาถ่ายทอดในฐานะนักเขียนบ้างคือเด็กผู้ชายซึ่งเป็นหลานของคุณปู่นิชิ ภายหลังชิสึคุจึงทราบว่าเด็กผู้ชายอายุเท่ากับเธอคนนี้คือ "อามาซาวะ เซอิจิ" ที่ยืมหนังสือก่อนหน้าเธอนั่นเอง
งานอดิเรกที่จริงจังของเซอิจิคือทำไวโอลินที่ร้านของคุณปู่นิชิ เขามุ่งมั่นอยากเป็นช่างทำไวโอลินชั้นเลิศให้ได้แม้อายุแค่สิบสี่ปี ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเซอิจิถ่ายทอดมาสู่ชิสึคุอย่างน่ามหัศจรรย์ค่ะ เธอเองอยากพัฒนาตัวให้ได้มากกว่านี้และเห็นแล้วว่าตัวเองมีพรสวรรค์ทางด้านภาษา นิยายเรื่องแรกที่เธอเขียนใช้ตุ๊กตาแมวบารอนเป็นตัวเอกและแรงบันดาลใจ ในตอนนั้นเซอิจิได้ไปอิตาลีเพื่อฝึกการทำไวโอลินสองเดือน ชิสึคุจึงรู้สึกว่าเซอิจิวิ่งทิ้งห่างเธอไปไกลและเธออยากตามให้ทัน เธอตัดสินใจบอกพ่อแม่ว่าจะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยแต่จะเดินตามความฝันที่จะเป็นนักเขียน เหลือเชื่อที่พ่อแม่อนุญาตค่ะ! ตรงนี้ตอกย้ำให้เรารู้ว่าชิสึคุเติบโตมาในครอบครัวที่ดูแลเธอเป็นอย่างดีและเธอได้รับความไว้วางใจที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตจากการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ชิสึคุตั้งหน้าตั้งตาเขียนนิยายและนำไปให้คุณปู่นิชิอ่านทั้งน้ำตา นี่คือผลงานชิ้นแรกในชีวิตของเธอ ผลงานที่ล้มเหลวแต่ทำให้โลกจินตนการของชิสึคุมาบรรจบกับโลกของความเป็นจริงในที่สุด
คุณปู่นิชิบอกว่า ผลงานของเธอคือ "อัญมณีที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน" ซึ่งชิสึคุทราบได้ทันทีว่าการเจียระไนคือการพัฒนาตัวเองมากกว่านี้ การตัดสินใจไม่เรียนต่อและหันหน้าเข้าสู่โลกของจินตนาการไม่ใช่คำตอบ แต่การเรียนรู้ให้สูงขึ้นพร้อมกับฝึกฝนตัวเองต่างหากคือคำตอบ ชิสึคุเปลี่ยนใจเตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ พร้อมๆ กับเซอิจิที่กลับมาจากอิตาลีและหอบเอาหัวใจที่ตามเสียงกระซิบของความฝันมาจนถึงปลายทางในที่สุด
Whisper of the Heart เป็นก้าวเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ของการค้นพบตัวเองและผสานโลกของความฝันและความจริงเข้าด้วยกันอย่างน่าประทับใจ ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้กำกับโดย "โยชิฟุมิ คอนโด" ซึ่งกำกับฯ Whisper of the Heart เป็นเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายในชีวิต สามปีหลังเรื่องนี้ออกฉาย เขาก็จากไปด้วยโรคหลอดเลือดโป่งพองในสมองด้วยวัยเพียง 37 ปี แต่ก็ทิ้งผลงานซึ่งทำให้หัวใจของทุกคนพองโตจากเสียงกระซิบเล็กๆ ในโลกแห่งจินตนาการ
Whisper of the Heart คือแอนิเมชั่นที่ทำให้เราหยุดวิ่งอย่างไร้ทิศทางและฟังเสียงเล็กๆ จากหัวใจของเราเองค่ะว่าความปรารถนาสูงสุดของเราแม้อยู่ไกลสุดเอื้อม แต่ทางเดินก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้วนี่เอง
วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11258 มติชนรายวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น