"ชินไค มาโคโตะ"ผู้เปิดศตวรรษใหม่ของแอนิเมชั่น

คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

"ชินไค มาโคโตะ" คือชื่อของชายผู้สร้างปรากฏการณ์อันน่าตื่นตะลึงให้วงการแอนิเมชั่น (ภาพยนตร์การ์ตูน) ญี่ปุ่นอย่างล้นหลามตั้งแต่ต้นศตวรรษใหม่เป็นต้นมา แม้ชื่อของเขาจะยังไม่คุ้นหูนักดูแอนิเมชั่นตะวันตกหรือแม้แต่ในไทย แต่อีกไม่นานชื่อของเขาจะต้องประทับอยู่ในความทรงจำเทียบเท่าสตูดิโอจิบลีผู้เปรียบดั่งดิสนีย์แห่งญี่ปุ่นแน่นอนค่ะชินไค มาโคโตะปัจจุบันอายุ 34 ปี จบการศึกษาด้านวรรณกรรมญี่ปุ่นและสนใจวรรณกรรมเยาวชนเป็นพิเศษ เขาฝึกฝนการวาดภาพด้วยตนเองจนได้เข้าทำงานในบริษัทเกมในฐานะกราฟิกดีไซเนอร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้เขาเรียนรู้การทำคอมพิวเตอร์กราฟิก (CG) มากขึ้น 5 ปีหลังจากเรียนรู้การทำ CG เขาพบว่าเพียงแค่ทำคลิปวิดีโอสำหรับเกมและเว็บไซต์นั้นไม่ใช่ทุกสิ่งที่ต้องการ เขาอยากทุ่มเทพลังสร้างสรรค์และจินตนาการให้มากกว่านี้ในแอนิเมชั่นที่ยาวขึ้น

แรงผลักดันนี้ทำให้เขาสร้างการ์ตูนสั้นเรื่องแรกซึ่งมีความยาว 5 นาที ชื่อว่า "She and Her Cat" ซึ่งได้รับรางวัลไปตามระเบียบ ความสำเร็จจากเรื่องแรกทำให้ชินไค มาโคโตะมุ่งมั่นสร้างแอนิเมชั่นเรื่องที่สอง Hoshi no Koe หรือ "เสียงเพรียกจากดวงดาว" ที่เราจะกล่าวถึงวันนี้ค่ะ

แอนิเมชั่นเรื่องนี้กวาด 6 รางวัลในหนึ่งปี ความยาวแม้เพียง 25 นาทีแต่ได้สร้างความอัศจรรย์ใจให้วงการ ทำให้ชื่อ "ชินไค มาโคโตะ" กลายเป็นที่รู้จักกว้างขวางในพริบตา"เสียงเพรียกจากดวงดาว" เป็นเรื่องของ "มิคาโกะ" เด็กสาวอายุ 15 ปีซึ่งได้รับเลือกให้ไปสู้รบในอวกาศที่ห่างไกลและโดดเดี่ยว (เธอขับหุ่นยนต์ค่ะ) สิ่งเดียวที่พอจะคลายเหงาได้คือการรับส่งอีเมล์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือถึง "โนโบรุ" เพื่อนชายของเธอ

ตอนแรกมิคาโกะยังฝึกที่ฐานปฏิบัติการในดาวอังคารซึ่งไม่ไกลนัก แต่ต่อมาเธอต้องไปไกลถึงดาวพฤหัสและดาวพลูโต ยิ่งไกลเท่าไร ระยะเวลาในการส่งอี-เมล์ไปยังโลกก็ยิ่งมากขึ้น ทั้งสองต่างเฝ้ารอเวลาที่จะได้รับเมล์ของกันและกัน จากนาทีเป็นวัน จากวันเป็นเดือน และจากเดือนก็เป็นปี ยิ่งรอ ระยะทางที่ห่างไกลไปทุกทีก็ยิ่งทำให้เจ็บปวด

ในที่สุดเธอก็จำต้องเดินทางผ่านอุโมงค์เวลา เธออี-เมลมาบอกว่าตอนนี้เธออายุ 15 ปี แต่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เธอจะห่างจากโลก 7 ปีแสงทำให้อี-เมลครั้งต่อไปจะส่งไปถึงโนโบรุในอีก 7 ปีข้างหน้า ตอนที่โนโบรุอายุ 22 ปีพอดี

ความมุ่งมั่นเฝ้ารอของโนโบรุเริ่มกลายเป็นความท้อแท้ จากเพื่อนที่เคยอี-เมลคุยโดยใช้เวลาเป็นหลักวินาทีในการส่งข้อความบนโลกใบเดียวกัน กลายเป็นนานขึ้น นานขึ้น และสุดท้ายเมื่อเขาทราบว่าต้องรออีก 7 ปีสำหรับอี-เมลครั้งถัดไป...

โนโบรุจะทำอย่างไรคงต้องลองติดตามดูกันล่ะค่ะ นอกเหนือจากการเขียนบทและการกำกับที่ได้รับการยอมรับว่าเข้าขั้นเทพ ภาพ CG ทั้งสองและสามมิตินั้นสวยจนลืมไม่ลงเลยค่ะ ชินไค มาโคโตะเลือกใช้สีจัดจ้านและไล่สีเหมือนภาพพิมพ์ญี่ปุ่นประกอบกับเทคนิคสาดแสงเป็นรัศมีเหมือนหลอดนีออนทำให้งานนี้เหมือนรอยต่อวัฒนธรรมการ์ตูนสองมิติแบบดั้งเดิมและการ์ตูน CG ยุคใหม่ จะเป็นการ์ตูนดราม่าก็ไม่ใช่ หุ่นยนต์ก็ไม่เชิง ความรู้สึกก้ำกึ้งและอึดอัดจนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็เป็นธีมของเรื่องเช่นกันค่ะชินไค มาโคโตะให้สัมภาษณ์ว่าเขาอยากเล่าความสับสนของชีวิตวัยรุ่นที่จะเป็นเด็กก็ไม่ใช่ ผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง และต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเล็กๆ (อย่างความคิดถึงและการอี-เมลหากัน) ที่ถูกขวางกั้นด้วยอุปสรรคชิ้นโต (แบบระยะห่าง 7 ปีแสง)

เทคนิคการเล่าเรื่องอย่างเหนือชั้นของเขาทำให้คนดูปวดจี๊ดถึงหัวใจค่ะ นั่งดูกับพ่อสารถีที่บ้านถึงกับเก็บมาคุยกัน 3 วันไม่เลิก ความดังของเรื่องนี้ทำให้มียอดขาย DVD ในญี่ปุ่นสูงถึง 5 หมื่นแผ่นซึ่งมากกว่าแอนิเมชั่นทั่วไปที่ฉายทางโทรทัศน์ในญี่ปุ่น 5-10 เท่า! แม้จะเทียบกับยอดขายของแอนิเมชั่นจากสตูดิโอจิบลี่ที่เคยได้ออสการ์มาแล้วไม่ได้ แต่ชินไค มาโคโตะประสบความสำเร็จด้านรายได้มากกว่าไม่รู้กี่เท่าค่ะ

เชื่อไหมคะว่าเรื่องนี้เขาทำงานภาพและกำกับด้วยตัวคนเดียวทั้งหมด! ดังนั้นจึงลดต้นทุนแรงงานไปไม่รู้เท่าไร ถ้าอยากลองหาชม เรื่องมีลิขสิทธิ์ในไทยแล้วแต่หายากมากๆ คงเพราะไม่เหมาะกับตลาดเมืองไทยที่ยังเห็นการ์ตูนเป็นของสำหรับเด็ก ยอดผลิตเลยแผ่วๆ หาซื้อ 3 ห้างก็ยังไม่เจอจนต้องฝากศิษย์รักไปซื้อไกลมากๆ ถึงจะได้ไว้ในครอบครองค่ะ..ทำกล่องสวยจริงๆ

ชมHoshi No Koeจาก YouTube

Hoshi No Koe1

Hoshi No Koe2

Hoshi No Koe3

Hoshi No Koe4