22 มิถุนายน 2551

RAISE ฝูงบอมบ์เดนตาย

คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

เมื่อนึกถึงการ์ตูนเกี่ยวกับเครื่องบินรบที่ดุเดือดและคลาสสิคที่สุด เรื่องแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองคือ "AREA 88" ค่ะ ตำนานการรบกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ นอกจากต้องหลบห่ากระสุนจากฝูงบินของศัตรูแล้ว แรงโน้มถ่วงของโลกยังเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่เหล่านักรบกลางเวหาต้องเอาชนะให้ได้

ผลงานสุดยอดนี้เป็นฝีมือของ "ชินทานิ คาโอรุ" เจ้าของผลงานเรื่อง "RAISE ฝูงบอมบ์เดนตาย" นี่ล่ะค่ะ

ย้อนกลับไปในปี 1943 ที่ยุโรปตกอยู่ท่ามกลางไฟของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุคที่ยังไม่มีขีปนาวุธข้ามทวีปซึ่งสามารถยิงจากเรือดำน้ำพุ่งไปกลางโรงงานผลิตอาวุธของฝ่ายตรงข้ามได้ตรงเป๊ะเหมือนตาเห็น

ยุคนั้นการตัดกำลังโดยการทำลายคลังแสงหรือจุดยุทธศาสตร์ทางการทหารทำได้อย่างเดียวคือทิ้งระเบิดใส่ค่ะ และนั่นคือเรื่องราวของตัวเอกในเรื่องนี้ "ผู้กองสแตนลีย์" กัปตันแห่งกองบินที่ 8 แห่งหน่วยบินกองทัพบกสหรัฐอเมริกาเป็นนักบินเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีฝีมือคนหนึ่ง แต่เขาทำความผิดโดยไปชกผู้บังคับบัญชาซึ่งเป็นโรคหัวใจ ทำให้ผู้บังคับบัญชาหัวใจวายเสียชีวิต

แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับหมัดของเขาโดยตรง แต่หลังขึ้นศาลทหารผู้กองสแตนลีย์ก็ต้องชดใช้ความผิดโดยการออกบินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นสุดสงครามทั้งที่นักบินปกติหากรอดชีวิตหลังจากการบิน 25 เที่ยวก็สามารถปลดประจำการได้ เครื่องบินทิ้งระเบิดคู่กายของเขาคือ "พริสตันเลดี้" ซึ่งไม่ใช่เครื่องเจ๊ทนั่งคนเดียวค่ะ

เครื่องบินทิ้งระเบิดต้องแบกระเบิด 8 ลูก หนักลูกละ 500 ปอนด์ บินอุ้ยอ้ายไปยังเป้าหมายและทิ้งระเบิดเสร็จแล้วก็เผ่นกลับให้เร็วที่สุดก่อนจะโดนหางเลขระเบิดที่ตัวเองเพิ่งทิ้ง และเนื่องจากทั้งลำมีแต่ของไวไฟ แค่โดนยิงนิดๆ หน่อยๆ ก็พร้อมจะระเบิดกลางอากาศได้ ดังนั้น เครื่องบินทิ้งระเบิดจึงต้องมีปืนต่อต้านอากาศยานอยู่เต็มลำเหมือนเม่นที่พร้อมจะสลัดขนแหลมๆ หากศัตรูเข้ามาใกล้

นอกจากนั้น ยังต้องมีคนคำนวณเส้นทางเพื่อหาจุดทิ้งระเบิดให้แม่นยำที่สุด คงไม่มีใครอยากขนระเบิดมากมายเสี่ยงตายไปทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ตรงเป้าใช่ไหมคะ ยุคที่ยังไม่มีดาวเทียม คนคำนวณเส้นทางจึงจำเป็นมาก คนเล็งเป้าที่พื้นก่อนทิ้งระเบิดก็สำคัญเช่นกัน รวมๆ แล้วถ้าเครื่องบินทิ้งระเบิดถูกยิงตกเพียงลำเดียว คนจะตายไปเยอะมากค่ะ

โดยปกติหากนักบินเครื่องบินทิ้งระเบิดออกบินได้ 25 ครั้ง ก็จะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ หากลองคิดว่าขึ้นบินครึ่งเดือนต่อครั้งโดยเฉลี่ยก็ต้องบินอยู่ 1 ปี จึงจะครบ แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้อยคนเหลือเกินที่ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรตินี้ค่ะ อายุเฉลี่ยของเครื่องบินทิ้งระเบิดคือ 6-8 เดือนเท่านั้น นั่นหมายถึงอาจจะมีบางลำออกบินครั้งแรกแล้วถูกยิงตกเลย หรือบางลำอยู่นานปีหนึ่งก่อนจะตก แต่โดยเฉลี่ยแล้วเครื่องบินทิ้งระเบิดลำหนึ่งจะบินได้แค่ 12-18 ครั้งเท่านั้นเอง แล้วก็โดนยิงตก

แม้พริสตันเลดี้จะขึ้นบินและรอดมาได้ถึง 36 ครั้ง แต่เนื่องจากนักบินแต่ละคนเป็นพวกมีคดีติดตัว ความผิดของพวกเขาทำให้เขายังไม่ได้ปลดประจำการจนกว่าสงครามจะสิ้นสุด การที่นักบินทุกคนยังรอดชีวิตได้จึงนับว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก RAISE ไม่ได้กล่าวถึงเฉพาะผู้กองสแตนลีย์ตัวเอกของเรื่องเท่านั้น เขาเป็นเพียงศูนย์กลางของทุกคนและทุกเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศร้าของทหารใหม่อายุสั้น การหนีตายจากเครื่องบินขับไล่ฝีมือดี หรือปฏิบัติการอันเหลือเชื่อของเครื่องบินทิ้งระเบิดเดนตายลำอื่น

การ์ตูนเรื่องนี้จึงนำเสนอมุมมองในแง่คุณค่าของชีวิตที่เพียงต่อลมหายใจได้อีกเฮือกหนึ่งท่ามกลางสงครามก็ถือเป็นบุญโขแล้ว น้อยเหลือเกินค่ะที่การ์ตูนแนวสงครามจะทำออกมาให้พบกันครึ่งทางระหว่างดราม่าสุดเศร้ากับความมันของสงครามที่กลิ่นระเบิดและควันปืนอบอวลไปทั่วหน้ากระดาษ แม้จะไม่เป็นการ์ตูนไอดอลมากเท่า AREA 88 แต่เป็นอีกมุมเล็กๆ ของสงครามที่ชวนซาบซึ้งค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น