26 กรกฎาคม 2551

Kobato by CLAMP รอยยิ้มกึ่งสำเร็จรูป

คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

ชื่อ CLAMP กลายเป็นใบรับประกันไปแล้วค่ะว่าผลงานการ์ตูนที่ได้รับการออกแบบหรือสร้างสรรค์ขึ้นโดยกลุ่มนักเขียนหญิง 4 คนที่รวมตัวกันในนาม CLAMP จะเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและบอกถึงความเป็นตัวพวกเธอเอง นั่นคือพล็อตเรื่องมีเอกลักษณ์ แนวคิดอิงปรัชญา และทุกเรื่องสามารถยำรวมไว้ในจักรวาลแคลมป์ที่ให้ตัวละครจากต่างเรื่องเดินสวนไปมาในช่องเดียวกันอย่างไม่เคอะเขิน ผลงานของพวกเธอจึงพะยี่ห้อ "by CLAMP" ได้อย่างน่าภูมิใจค่ะ

โคบาโตะ" คือการ์ตูนอีกเรื่องที่ออกมาพักใหญ่ๆ แล้วของแคลมป์ มีผู้แปลเป็นภาษาอังกฤษให้อ่านฟรีทางอินเตอร์เน็ตมากมายก็ยังไม่เห็นสำนักพิมพ์ในไทยซื้อลิขสิทธิ์ไปเสียทีค่ะ จนกระทั่งมีสำนักพิมพ์ไพเรท (ไม่มีลิขสิทธิ์) ขอแซงพิมพ์ก่อนเลยต้องซื้อมาลองอ่านซักเล่ม แบบว่าอ่านเป็นภาษาอังกฤษก็ได้แต่ไม่อบอุ่นใจเท่าอ่านเวอร์ชั่นภาษาไทยค่ะ"โคบาโตะคือสาวน้อยลึกลับที่เปิดเรื่องมาเราก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนกันแน่ แต่ภารกิจสำคัญของเธอคือช่วยเยียวยาบาดแผลในใจของผู้คนเพื่อรวบรวมหัวใจที่มีทุกข์ใส่ขวดให้เต็ม สำเร็จเมื่อไรเธอจะได้ไปยังสถานที่ที่เธอต้องการ

เวทีนี้มีพี่เลี้ยงเป็นตุ๊กตาสุนัขพันธุ์เดียวกับสนูปี้ที่ดุ โหด และเข้มงวดกับโคบาโตะมากค่ะ เขาชื่อคุณอิโอเรียวกิซึ่งมีหน้าที่ให้คะแนนสำหรับภารกิจต่างๆ ที่โคบาโตะทำ สิบตอนแรกเหมือนเป็นการปูเรื่องไปเรื่อยๆ โดยไม่เห็นจุดหมายชัดเจน คือแม่หนูโคบาโตะก็ปฏิบัติภารกิจช่วยคนตามประสาเธอไปเรื่อยๆ แล้วลงท้ายด้วยการโดนตุ๊กตาคุณอิโอเรียวกิดุเอาน่ะค่ะ จะรู้สึกตื่นเต้นก็ตรงชุดของโคบาโตะที่หลากหลายและน่ารักจนอยากลองใส่ดูบ้าง มีปมนิดๆ หน่อยๆ ถูกวางโปรยไว้เหมือนตะปูเรือใบ เหยียบแล้วยางไม่แตก แต่เหยียบเยอะๆ เข้าก็ชักน่าสนใจจนต้องหยุดมองว่าแคลมป์กำลังจะนำเสนออะไรให้เรากันแน่

จนจบเล่มหนึ่ง อืม...ก็รู้สึกว่าเริ่มมีมิติลึกล้ำมากขึ้น ปมถูกผูกไว้เป็นระยะอย่างแยบยล แต่...มันเหมือนไม่ใช่จุดเด่นของเรื่องนี้ค่ะ!!!(CLAMPประกอบด้วย Ohkawa Ageha (leader; story,script),Apapa Mokona (lead artist; colorist),Nekoi Tsubaki (art assistant; chibi artist),และIgarashi Satsuki (design; art assistant)ภาพและข้อมูลจาก : http://www.mangaupdates.com/authors.html?id=208)


มีบางอย่างใน "โคบาโตะ" ที่แม้จะเรียบง่าย ลื่นไหล เนิบนาบหรืออาจเรียกด้วยภาษาชาวบ้านว่า "งั้นๆ" กลับทำให้รู้สึกว่าเปิดอ่านอีกกี่รอบก็สดชื่นค่ะ นั่งพลิกแล้วคิดอยู่หลายรอบมากจึงได้ข้อสรุปว่าเป็นเพราะ "รอยยิ้ม" ของโคบาโตะนี่เอง

สิ่งที่ชอบที่สุดของการ์ตูนเรื่องนี้และคิดว่าทำให้ดอกไม้เล็กๆ บานในหัวใจคือรอยยิ้มและความน่ารักของโคบาโตะนี่ล่ะค่ะ แม้เธอต้องใช้ความพยายามอย่างสูงในการ "ทำความดี" แต่เธอกลับแทบไม่ต้องใช้ความพยายามในการ "มองโลกในแง่ดี" เลย โคบาโตะไปทำงานพิเศษที่ร้านเค้กและได้ค่าจ้างเป็นขนมเค้กที่เธอต้องการ ใบหน้าและแววตาดีใจชวนให้ยิ้มตามจนแก้มป่องเลยค่ะ แต่พอเธอถือเค้กกลับบ้านก็เจอคุณแม่ที่สัญญาว่าจะซื้อเค้กให้ลูกชายแต่ซื้อไม่ทัน โคบาโตะจึงยกเค้กให้และมองดูหิมะด้วยรอยยิ้มเสียแทน อ่านแล้วก็ยิ้มตามจนแก้มป่องเริ่มปริ แม้ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นดังคาดหรือผิดหวัง โคบาโตะก็รู้จักเลือกมองสิ่งที่ทำให้จิตใจผ่อนคลายมากกว่าจะเก็บมาคิดแล้วปวดหัวไม่เป็นเรื่องดังนั้น จะอ่านโคบาโตะให้สนุกคงต้องอ่านโดยไม่คาดหวังถึงพล็อตอันซับซ้อนเสียก่อนนะคะ เล่มหลังๆ อาจมีแต่ไม่ใช่ในเล่มแรกแน่ๆ เพียงแต่อ่านแล้วสนุกไปกับรอยยิ้มของโคบาโตะ มองโลกอย่างที่โคบาโตะมอง ยิ้มเมื่อโคบาโตะยิ้ม ก็จะรู้สึกว่าซื้อมาคุ้มเงินแล้วค่ะ

สรุปว่าเป็นการ์ตูนขายรอยยิ้ม เหมือนเป็นรอยยิ้มกึ่งสำเร็จรูปบรรจุหนังสือการ์ตูนที่อ่านแล้วจะอยากยิ้มตามแล้วก็คิดในใจว่า "น่ารักจัง"

จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11096

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28 กรกฎาคม 2551 เวลา 22:50

    Muchas gracias visitar este blog que había escrito por el doctor tailandés en lengua thaïe. ¿Es incluir? UM… La cosa, su blog son interés también. Gracias y Dios le bendicen.

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2551 เวลา 23:54

    Hola Jorge, mi amigo d' Argentina. Su blog muy bueno para cada uno en tecnologías y externo este you' ; el VE escrito en lengua española. Umm… soy muy pobre en l' Español. J' gusta el rey de zulacar de Mañana y lo conoce de su blog. Muchas gracias.

    ตอบลบ