22 มิถุนายน 2551
ชุน ชามเล็กที่ยิ่งใหญ่
คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง
ประมาณสองสามสัปดาห์ก่อนจู่ๆ ก็ทราบข่าวที่เหลือเชื่อจากเพื่อนว่า "พี่เก๋วาดโดจินชิ (การ์ตูนล้อ) เรื่องหงสาจอมราชันย์ออกมานะ!!" ตอนที่ได้ยินชื่อหงสาฯ ซึ่งเป็นการ์ตูนไซด์สตอรี่ของสามก๊กก็หูผึ่งแล้ว แต่พอได้ยินชื่อ "พี่เก๋" นี่เกือบตกเก้าอี้เลยค่ะ!
คิดมาตลอดว่าพี่เขาคงเลิกวาดการ์ตูนไปแล้ว แต่พอได้ยินว่าคนที่นับถือยังทำงานที่ตัวเองรักอยู่น้ำตาก็แทบไหลเลยค่ะ"พี่เก๋" เป็นนักวาดการ์ตูนที่วาดเป็นงานอดิเรกแต่พรสวรรค์นั้นล้นเหลือ สำหรับนักอ่านการ์ตูนผู้หญิงวัยใกล้ 30 อาจจะเคยเห็นผลงานของพี่เก๋ส่งประกวดในนิตยสารการ์ตูนหลายครั้ง ด้วยลายเส้นระดับเทพอย่างหาตัวจับยาก
หลายคนจึงตกตะลึงเมื่อทราบภายหลังว่าพี่เก๋ที่วาดรูปสวยมากๆ คนนี้เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์อันดับหนึ่งของเมืองไทย!! ด้วยความคิดถึงเลยอี-เมลไปหาพี่เก๋ค่ะ จึงได้ทราบว่าพี่เก๋ยังคงเป็นหมอแต่ก็เปิดร้านต้นไม้พร้อมกับวาดภาพไปด้วยซึ่งล้วนเป็นงานที่รัก
"พี่ชอบญี่ปุ่นตรงที่ไม่ว่าใครจะทำเรื่องอะไรเล็กน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเขามีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่เขาทำ เขาก็กลายเป็น Professional (มืออาชีพ) ได้" คือสิ่งที่พี่เก๋เล่าให้ฟังล่าสุดค่ะ คำนี้แล่นปรี๊ดขึ้นหัวทันทีเมื่อได้อ่านการ์ตูนเรื่อง "ชุน คนเล็กอัจฉริยะ" ซึ่งมีภาพเด็กหนุ่มถือชาม "ข้าวราดหน้า" อยู่หราเต็มปก คำโปรยนั้นน่าสนใจค่ะ
"เมื่อพูดถึงข้าวราดแล้วย่อมมีผู้ดูถูกว่าเป็นเพียงอาหารสำหรับชนชั้นล่าง ผู้ที่คิดเช่นนี้ถือเป็นผู้ไร้แก่นสาร ลืมนึกถึงธาตุแท้แห่งอาหารว่าข้าวราดนั้นเกิดขึ้นได้จากฝีมือระดับสุดยอดและจิตวิญญาณอันสูงส่ง"
...เอาอย่างนั้นเลยนะ"ชุน" เด็กหนุ่มนักเรียนลูกชายคนเดียวของร้าน "คุระโซบะ" ร้านโซบะซึ่งเคยขึ้นชื่อมาก่อนประสบกับวิกฤตชีวิตอย่างร้ายแรงเมื่อพ่อซึ่งแขนเจ็บจนนวดโซบะไม่ไหวกลับต้องรับผิดชอบหนี้สิน เพราะเป็นนายหน้าค้ำประกันเงินกู้ให้เพื่อนหลายล้านเยน ความที่กิจการคุระโซบะแย่อยู่แล้วเพราะพ่อนวดโซบะไม่อร่อยเหมือนเดิม ปัญหาระลอกใหม่ทำให้ครอบครัวนี้อาจต้องขายโฉนดที่ดินร้านเพื่อล้างหนี้
และเวลานั้นเอง "อายะ" ลูกสาวอดีตเศรษฐีซึ่งเป็นผู้ขอให้คุณพ่อของชุนค้ำประกันก็ปรากฏตัวขึ้นแบบสิ้นเนื้อประดาตัวเจ้าหนี้หน้าเลือด "อาโอนุมะ" ยื่นข้อเสนอว่า หากชุนสามารถหาเงินมาคืนได้ทันเวลา เขาจะยอมไม่ยึดโฉนด ในยามที่ไร้หนทางเช่นนี้ ชุนได้พบพรสวรรค์ของตัวเองซึ่งสามารถทำ "ข้าวหน้าหมูทอด" ได้อร่อยอย่างเหลือเชื่อ
แม้เขาจะไม่มีพรสวรรค์ด้านโซบะเช่นเดียวกับพ่อ ทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือข้าวหน้าหมูทอด เพราะทำกินเองทุกวันแต่เขาก็ตัดสินใจจะนำมาเป็นอาวุธสู้กับอาโอนุมะซักตั้งแม้จะเป็นอาหารที่เรียบง่ายแต่ข้าวหน้าหมูทอดต้องใช้ความชำนาญพอสมควรเพื่อทำให้อร่อย
เราอาจจะเคยเห็นที่ขายตามร้านอาหารในไทยหน้าตาเหมือนหมูชุบแป้งขนมปังทอดราดด้วยไข่ผัดหอมใหญ่บนข้าว ชุนคุงสอนให้เราทราบว่ามันไม่ใช่แค่นั้นค่ะ หมูชุบแป้งขนมปังซึ่งทอดครั้งแรกควรสุกเพียง 90% เพราะต้องนำมาใส่กระทะจิ๋วซึ่งมีน้ำซุปและเครื่องปรุงอีกครั้งก่อนจะราดด้วยไข่ดิบซึ่งหมูก็จะสุกพอดี ราดลงข้าวสวยร้อนๆ ในชามก้นลึกเสร็จแล้วก็ราดด้วยน้ำซอสปรุงรสพิเศษให้ชุ่มถึงข้าว ปิดฝาจนไข่กลายเป็นยางมะตูม เมื่อเปิดฝาเราก็จะคดข้าวสวยร้อนๆ ฉ่ำน้ำซอสกินกับหมูชุบแป้งขนมปังทอดคำโต
อา..คิดแล้วก็น้ำลายหกค่ะเพียงแค่อาหารที่ทำกินเองคนเดียวบ่อยๆ ประกอบกับความช่างสังเกตกลายเป็นความชำนาญในที่สุด ชุนพิสูจน์ให้เห็นว่าอาหารพื้นๆ แค่นี้อาจเป็นฮีโร่ช่วยให้บ้านของตัวเองรอดจากการถูกยึดได้ และจากสิ่งเล็กๆ ในความคิดของคนอื่น กลับกลายเป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้เช่นกันย้อนกลับมามองที่ตัวเองอีกครั้ง แล้วถามว่าเราได้ทำสิ่งยิ่งใหญ่อะไรให้ตัวเองบ้าง ในบางครั้งคนรอบข้างก็ทำให้เดินเป๋ผิดทางเหมือนกันค่ะว่าต้องทำงานวิจัยชิ้นใหญ่ หรือตรวจคนไข้ให้ได้เยอะๆ เรียกค่าตัวแพงๆ สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ฯลฯ ถึงจะแปลว่าประสบความสำเร็จ
แต่จากที่เห็นพี่เก๋ที่นับถือมีความสุขกับต้นไม้และการวาดการ์ตูน รุ่นพี่ข้างห้องนั่งเย็บหนังสือธรรมะและเอามาให้ด้วยรอยยิ้ม บางทีสิ่งเล็กๆ เหล่านี้อาจจะยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของเรามากกว่าอะไรที่ดู "ใหญ่" ก็ได้ค่ะคอลัมน์นี้คงเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของตัวเองด้วยละมั้งคะ...ว่าแล้วก็ไปหาข้าวหมูทอดกินดีกว่าค่ะ จะได้ทำให้มื้อเล็กๆ กลายเป็นความสุขจากการอิ่มท้องครั้งใหญ่บ้าง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น