22 มิถุนายน 2551

การ์ตูนออนบล็อกกับการเดินทางลงกระดาษ


คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

จัก "บล็อก" หรือ "Blog" ไหมคะ...คนไม่ค่อยเชี่ยว ชาญด้านอะไรที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่ออย่างเราก็อธิบายยากเสียด้วย แต่ไปอ่านความหมายของคำนี้จากชาวบ้านมาค่ะ เขาว่า Blog มาจากคำว่า Web Log แต่เรียกให้สั้นเข้าว่า บล็อก มันคือเว็บไซต์ประเภทหนึ่งซึ่งมีจุด เด่นที่ให้จริตเหมือนกำลังนั่งอ่านไดอารี่ของชาวบ้านอยู่ แต่ดีกว่าแอบหยิบมาอ่านเองตรงที่เราสามารถเสนอความเห็นของเราให้เจ้าของบล็อกและคนอื่นที่มาร่วมอ่านฟังได้ด้วย

พัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นจาก "เว็บไซต์" โบราณซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียวโดยผู้จัดทำ คือบล็อกกลายเป็น การสื่อสารสองทางโดยมี comment หรือส่วนที่ให้ผู้อ่านทิ้งข้อความไว้ได้ด้วย นอกจากนั้นยังเป็น "ชุมชนออนไลน์" ที่พัฒนาขึ้นจาก "เว็บบอร์ด" หรือฟอรั่มโดยสร้างความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เว็บบอร์ดอาจเกิดปัญหาทะเลาะกันเนื่อง จากหลายคนก็หลายความเห็น แต่ Blog ลดปัญหานี้ลง ใคร ใคร่เปิดก็เปิด ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้ามาดู

ด้วยความที่ลักษณะการใช้งานเป็นการเปิดทีละหน้า ซึ่งเปลี่ยนการพลิกหน้าหนังสือเป็นการเลื่อนหน้าลงมาแทน ถ้าต้องการเปิดย้อนก็สามารถเลื่อนหน้าขึ้นได้รวดเร็วเช่นเดียวกับการพลิกหาบนหน้าหนังสือ จึงไม่แปลกเลยที่หนังสือการ์ตูนจะลงไปอยู่ในบล็อกได้ และการ์ตูนในบล็อกก็อาจจะขึ้นมาอยู่บนเล่มหนังสือได้เช่นกัน

ร่ายเสียยาว แต่ความจริงกำลังจะแนะนำการ์ตูนที่ไปเจอในร้านหนังสือเมื่อวานนี้ค่ะ ความรู้สึกแรกที่เห็นคือตัวการ์ตูนบนปกน่ารักดี แต่สะดุดที่ชื่อ "โดดงานทุกวันได้ไหมเนี่ย" เท่านั้นแหละค่ะ ซื้อเลย! (โดนใจอย่างแรง)

การ์ตูนเล่มนี้เป็นผลงานของ Wan Wan สาวน้อยชาวไต้หวัน เธอเข้าทำงานในบริษัทเกมออนไลน์และเริ่มเขียนไดอารี่ชีวิตประจำวันของตนเองลงในบล็อกโดยไม่ได้เขียนเป็นตัวอักษรหรือถ่ายภาพแบบที่คนส่วนใหญ่ทำ เธอวาดเป็นตัวการ์ตูนเล่าเรื่องแบบ 1-4 ช่องจบค่ะ

ไม่น่าเชื่อว่าการ์ตูนธรรมดาๆ ที่เล่าชีวิตธรรมดาๆ ได้รับการบอกปากต่อปากจนกลายเป็นบล็อกเล็กๆ ที่มีจำนวนผู้เปิดเข้าชมสูงสุด และทะลุสองล้านฮิตในเวลาไม่ถึงปี ความสำเร็จนี้ทำให้สำนักพิมพ์ต่างๆ ติดต่อนำผลงานของเธอมาตีพิมพ์ โดยเล่มแรกชื่อ "ไม่ไปทำงานได้ไหมเนี่ย"

ตอนวางที่แผง หนังสือเล่มนี้ต้องผนึกด้วยฟิล์มหดเลยค่ะ เพราะถ้าใครมายืนอ่านฟรีสักครึ่งชั่วโมงคนอ่านจบและไม่ซื้อ แต่ถ้าลองซื้อมาอ่านและค่อยๆ พิจารณาว่าเพราะเหตุใดการ์ตูนหัวกลมๆ ธรรมดาที่ไม่ได้หรูหราวิจิตรพิสดารชวนให้สะสมแบบงานศิลปะ และเรื่องที่เขียนก็แสนจะธรรมดา เพราะเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันจึงได้รับความนิยมถล่มทลายขนาดนี้

สิ่งแรกที่รู้สึกคือ "มุมมอง" ค่ะ วันๆ นำเสนอเรื่องที่เราพบเจอเป็นปกติทุกวันในมุมมองที่น่ารักตามประสาของเธอ ไม่แปลกใจเลยที่คนสิบคนมองเห็นเหตุการณ์เดียวกันอาจตีความไปดียี่สิบแบบ แต่มุมมองสร้างสรรค์และคิดนอกกรอบก็อาจกลายเป็นเอกลักษณ์ได้

ต่อมาคือ "การถ่ายทอด" แม้วันๆ จะรักการวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก สมัยอนุบาลก็โดดเรียนไปอ่านการ์ตูน (คล้ายๆ เราแต่เราไม่โดดเรียนเท่านั้นเอง) พกสมุดวาดรูปไปตอนประถม (ส่วนเราวาดในสมุดเรียนเลย) จนกระทั่งเธอเข้าร่วมชมรมศิลปะและเรียนด้านการออกแบบรวมถึงวาดการ์ตูนเก็บไว้เองมาตลอด ประสบการณ์ยาวนานและความมุ่งมั่นทำให้ลายเส้นเรียบๆ สื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจนและน่ารัก ตัวการ์ตูนเรียบง่ายจึงอุดมไปด้วยความหลากหลาย

สุดท้ายคือ "โฆษณา" หลายคนค้านว่างานดีจริงไม่ต้องโฆษณาก็ดังได้ อันนั้นเห็นด้วยค่ะ แต่ถ้าอยากให้งานดีๆ โด่งดังเร็วขึ้นจากสิบปีเหลือปีเดียว การโฆษณาเป็นสิ่งที่ควรทำ

วันๆ ไม่ได้เขียนบล็อกแล้วอ่านคนเดียวนะคะเธอผลิตหนังสือทำมือของตัวเองมาขายก่อน และโฆษณาไปตามเว็บไซต์ต่างๆ จนคนเห็นผลงานและบอกปากต่อปากไปเรื่อยๆ บล็อกของเธอจึงกลายเป็นปรากฏการณ์ออนไลน์ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดในไต้หวันค่ะ

หนังสือเล่มนี้อาจไม่ใช่สินค้าหนึ่งของเธอ แต่เป็นหนึ่งในวิธีโฆษณามากกว่า เพราะแท้จริงสินค้าของเธอคือ "ไอเดีย" ค่ะ

ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางการนำเสนอการ์ตูนบนสื่อชนิดใหม่เลยค่ะ ใครจะรู้ว่าบนจอคอมพิวเตอร์ไม่ได้ใช้สำหรับดูภาพยนตร์การ์ตูนเพียงอย่างเดียวอีกแล้ว ยุคการ์ตูนที่มีลักษณะเป็นหน้าแบบกระดาษกำลังจะปฏิวัติโลกออนไลน์แล้วค่ะ

ดีไม่ดีอนาคตหากกระดาษแพงขึ้นมาก หนังสือการ์ตูนเป็นเล่มอาจสูญพันธุ์ กลายเป็นแผ่น CD ฉายหน้าการ์ตูนให้เราเลื่อนๆ อ่านแทนก็ได้นะคะ

( เข้าชม เว็บไซต์ ราชินีบล็อกไต้หวัน WAN WAN ได้ที่ http://www.wretch.cc/blog/cwwany : ซุนปิน)

ไม่มีความคิดเห็น: