22 มิถุนายน 2551

บันทึกของเจ้าส้ม


คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออ

ไม่ทราบนึกอย่างไรขึ้นมาค่ะ จู่ๆ ก็เกิดอยากอ่านการ์ตูนเกี่ยวกับแมวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ระหว่างนึกอยู่นานว่าจะอ่านเล่มไหนดี ภาพแมวสีส้มก็ผุดขึ้นมาในสมองเลยค่ะ แมวสีส้มตัวนี้ไม่ใช่การ์ฟิลด์อ้วนส้มนะคะ แต่เป็น "เจ้าส้ม" การ์ตูนที่ชวนให้ย้อนรำลึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวและความรักของคุณพ่อคุณแม่อย่างที่สุด

"บันทึกลับของเจ้าส้ม" หรือ Mikan Enikkki เป็นผลงานของ อ.มิวะ อาบิโกะที่เขียนเป็นเรื่องสั้นจบในตอนลงนิตยสาร Lala ตั้งแต่ปี 1988 (20 ปีที่แล้ว...เกิดกันหรือยังคะ) จำไม่ได้แล้วค่ะว่าพิมพ์ในไทยเมื่อไร แต่ที่ช่วงนั้นต้องเศรษฐกิจไม่ค่อยดีแน่ๆ เพราะเป็นช่วงที่จำได้ว่าไม่ค่อยมีเงินซื้อหนังสือการ์ตูนค่ะ ความที่อยากอ่านแต่ก็ต้องเก็บเงินไว้กินข้าวด้วยเลยจำใจเช่าเอา ผ่านมาเป็นสิบปีก็ยังตามหาเรื่องนี้อยู่และโชคดีที่พอนึกถึงแมวส้มขึ้นมาก็เปิดหาร้านขายการ์ตูนเก่าทางอินเตอร์เน็ต แล้วก็เจอในที่สุดค่ะ เสียดายได้มาแค่ 9 เล่ม ไม่ครบชุด 14 เล่ม

"เจ้าส้ม" (ภาษาญี่ปุ่นคือมิคัง แปลว่าส้ม) คือแมวขนสีน้ำตาลส้มสวยที่ตาม "โทมุ" เด็กหนุ่มใจดีมาที่บ้าน คงเพราะความผูกพันบางอย่างทำให้เจ้าส้มคลอเคลียโทมุไม่เลิก แถมยังเอาใจคุณแม่ของโทมุจนเธออยากรับเจ้าส้มไว้เลี้ยง ในที่สุดความขี้อ้อนก็ทำให้เจ้าส้มกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกบ้านคุซานางิจนได้

ทั้งที่ทุกอย่างน่าจะไปได้สวย แต่โทมุกลับสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างในตัวเจ้าส้ม เช่น บางครั้งเขาได้ยินเสียงเหมือนเสียงหัวเราะแบบคน ไม่ใช่แบบแมว บางทีก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮ้อ โทมุจึงแอบตามมาดูยามดึกและพบว่าเจ้าส้มเมายาดองอยู่ในครัว! เจ้าส้มเปิดโหลยาดองแล้วกรึ๊บสบายใจเลยค่ะ

ความลับก็แตกในที่สุด ทุกคนในบ้านคุซานางิจึงทราบว่าเจ้าส้มเป็นแมวที่พูดภาษาคนได้และเดินสองขาได้ แต่แทนที่จะตกใจกลัว ทุกคนกลับยิ่งรักและดูแลเจ้าส้มราวกับเป็นน้องชายของโทมุเลยทีเดียว

ตอนที่ซาบซึ้งที่สุดน่าจะเป็นกำเนิดของเจ้าส้มค่ะ เจ้าส้มเดิมเป็นลูกแมวที่ถูกทิ้ง "คุณปู่" ผู้อาศัยอยู่ปลายนาเพียงคนเดียวเก็บเจ้าส้มและพี่น้องไปเลี้ยงค่ะ คุณปู่ตั้งชื่อเจ้าส้มว่า "ทอม" (โทมุถ้าอ่านแบบญี่ปุ่น) ตามชื่อแมวทอมแอนด์เจอร์รี่ ที่จริงคุณปู่ก็อยากยกเจ้าส้มให้คนอื่นเหมือนกัน แต่ความผูกพันทำให้ตัดสินใจไม่ยกให้ใคร เจ้าส้มเองรักคุณปู่มาก อยากจะตะโกนเรียกคุณปู่ให้ไปเล่นด้วยกันจนวันนั้นเองที่เจ้าส้มเริ่มรู้สึกว่าตัวเองออกเสียงได้เหมือนคนแถมยังถอนหายใจเสียงเหมือนคนอีกด้วย!

ครั้งแรกที่คุณปู่ได้ยินเจ้าส้มพูดได้ ไปเล่าให้ใครฟังก็มีแต่คนหาว่าบ้า หลังจากพยายามพิสูจน์หลายครั้งคุณปู่ก็เริ่มรู้ว่าหลานแมวของตัวเองไม่ควรให้ใครรู้ว่าพูดได้ ถ้าเป็นบ้านเราอาจโดนเอาไปโชว์ตัวตามงานวัด แต่ที่ญี่ปุ่นเขาอาจหาว่าเป็นแมวปิศาจแล้วฆ่าทิ้งเอา เจ้าส้มจึงรับปากว่าจะพูดต่อหน้าคุณปู่เท่านั้น

ในวันสุดท้าย คุณปู่ไม่สบายหนักจนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลและเสียชีวิตอย่างสงบ เจ้าส้มรอการกลับบ้านของคุณปู่แต่สิ่งที่ได้พบมีแต่ร่างที่ไร้วิญญาณ ความตกใจทำให้เผลอพูดออกไปจนชาวบ้านคิดว่าเจ้าส้มเป็นแมวปิศาจต้นเหตุให้คุณปู่ต้องตาย แม้จะเสียใจและอยากอยู่ใกล้คุณปู่เป็นครั้งสุดท้ายแต่เจ้าส้มก็ต้องจำใจหนีออกมาก่อนจะถูกจับไปทำแมวย่าง

เมื่อพบโทมุ ความคิดถึงคุณปู่ซึ่งเรียกตัวเองว่าโทมุเช่นกันทำให้เจ้าส้มเดินตามโทมุกลับบ้านและได้พบกับครอบครัวคุซานางิที่น่ารักในที่สุด ซาบซึ้งจริงๆ ค่ะ

บันทึกของเจ้าส้มโด่งดังมากจนถูกนำไปสร้างเป็นการ์ตูนฉายทางโทรทัศน์ในปี 1992 คือ 4 ปีหลังออกเล่มแรก ฉายต่อเนื่องกัน 30 ตอนแถมอีกหนึ่งตอนพิเศษและกลายมาเป็นการ์ตูนแมวที่อยู่ในใจหลายท่านอีกหนึ่งเรื่อง ดังถึงขนาดมีการแปลเป็นภาษาโปแลนด์,สเปน,อังกฤษ,และอารบิคเลยค่ะ

สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ไม่ใช่แมวมหัศจรรย์พูดได้ แต่เป็นความรักของคนในครอบครัวซึ่งมีแมวเป็นสมาชิกด้วย แอบคิดถึง Stuart Little หนูน้อยที่อยู่ในครอบครัวลิตเติ้ลแล้วเทียบว่าเจ้าส้มเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ได้รับอิทธิพลตะวันตกมาหรือเปล่า ปรากฏว่าเปล่าเลยค่ะ เจ้าส้มนำเสนอความรักในแบบสังคมตะวันออกได้อย่างงดงามและชวนให้ซาบซึ้งใจจริงๆ

ไม่แปลกใจที่ตอนนี้เจ้าส้มคือการ์ตูนอีกเรื่องที่หายากระดับเทพไปแล้วค่ะ อ่านแล้วรู้สึกอยากวิ่งเข้าไปกอดคุณพ่อคุณแม่และน้องชายจริงๆ สงสัยจะอินจัดค่ะ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

I love this manga soooooooooooo much.
But, because I forgot the name, I was unable to read it for 5 years!!
Thanks to your article, when I go back to Thailand this time I can lent it from the store again. Thanks!