09 กันยายน 2551

Legend of the Galactic Heroes มหากาพย์แห่งจักรวาล [2]

คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

กลับมาอีกครั้งค่ะ ยังไม่จบกับการตามหาข้อมูลการ์ตูนมหากาพย์ไซไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อาจเรียกได้ว่าเป็นสามก๊กอวกาศสำหรับวงการแอนิเมชันก็ไม่ผิด สืบเนื่องจากครั้งก่อนเล่าให้ฟังถึงภาคปกติของ Legend of the Galactic Heroes (LoGH) ซึ่งฟาดไป 110 ตอน แค่เห็นจำนวนก็หนาวแล้ว แต่แท้ที่จริงยังไม่หมดแค่นี่ค่ะ! (มีอีกเรอะ) จะขอกล่าวถึงรายละเอียดของฉบับแอนิเมชั่นนะคะ

ใน 110 ตอนนี้เป็นแอนิเมชั่นฉบับดั้งเดิมตอนละ 25 นาที จำหน่ายครั้งแรกในรูปแบบโฮมวิดีโอซึ่งเป็นตลับวิดีโอระบบ VHS ปัจจุบันนี้หาแทบไม่ได้แล้ว แต่การ์ตูนที่ไม่ได้ฉายทางโทรทัศน์เช่นนี้ ปัจจุบันเรียก Original Animated Video หรือ OAV ค่ะ OAV ของเรื่องนี้ออกมาในปี 1988 (20 ปีก่อน) และจบในประมาณ 8 ปีต่อมา ถ้าใครจำได้ ยุคนั้นเป็นยุควิดีโอบูมและเป็นยุคที่แอนิเมชั่นดีๆ ออกมามากมายเนื่องจากไม่จำเป็นต้องผลิตและรอขายโฆษณาทางโทรทัศน์แบบยุคก่อนหน้านั้นอีกแล้ว แต่ยุค VHS ก็สิ้นสุดลงเนื่องจากการมาถึงของเคเบิลทีวี ก่อนจะกลับมาฮิตอีกครั้งเพราะมีการผลิตเป็น VCD และ DVD ซึ่งราคาพอรับได้ในปัจจุบัน

ถึงแม้ตอนหลักจะยาวจนน่ากลัว LoGH ก็มีตอนสั้นๆ ประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง ทั้งแบบ movie และ OAV ออกมาหลายตอนเลยค่ะ แถมยังมี side story เรียกว่า Gaiden ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องจากนวนิยาย 8 เล่มนอกเหนือจากเรื่องหลักออกมาอีก 2 เรื่อง เรียกว่าแฟนๆ ดูกันไม่มีวันจบ รายชื่อตอนที่นอกเหนือจาก 110 ตอนได้แก่

Legend of Galactic Heroes: My Conquest is the Sea of Stars เป็น Movie ฉายในปี 1988 ตอนต้นปี ความสำเร็จของแอนิเมชั่นชิมลางนี้น่าจะทำให้ทีมงานมั่นใจที่จะสร้างทั้ง 110 ตอนและจำหน่ายในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ตอนนี้เป็นการเล่าอารัมภบท LoGH แบบย่อๆ ในเวลา 60 นาทีซึ่งมีเนื้อเรื่องหลักที่การพบกันครั้งแรกในสนามรบระหว่างไรน์ฮาร์ดกับยัง สองหนุ่มตัวเอกของเรื่อง ความโดดเด่นอยู่ที่คาแร็กเตอร์ทรงเสน่ห์และจุดยืนพร้อมทั้งปมในใจของทั้งสองคน

Legend of Galactic Heroes: Golden Wings จำหน่ายในรูปแบบ OVA เมื่อปี 1992 คือ 4 ปีหลังออกจำหน่ายครั้งแรก ความยาว 60 นาที ว่าด้วยเรื่องวัยเด็กของไรน์ฮาร์ด ฟอน มิวเซล ลูกชายของครอบครัวขุนนางตกยากที่มีพ่อไม่เอาไหน ส่วนแม่ของเขาเสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากโดนรถของขุนนางชน นี่เป็นเหตุให้ไรน์ฮาร์ดเกลียดชนชั้นขุนนางมาก อยู่มาวันหนึ่ง อันเนโรเซ่พี่สาวของไรน์ฮาร์ดเกิดเข้าตาจักรพรรดิเข้าจึงถูกพาตัวไปเป็นสนม ไรน์ฮาร์ดโกรธพ่อของเขามากและเชื่อมาตลอดว่าพ่อขายพี่สาวให้จักรพรรดิ กลายเป็นว่าชนชั้นขุนนางพรากคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาไปถึงสองคน สิ่งเดียวที่เขาคิดว่าจะทำได้เพื่อทวงพี่สาวคืนมาคือเข้าเรียนในโรงเรียนทหารร่วมกับเพื่อนในวัยเด็กของเขา "ซิกฟรีด" ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นนายทหารคนสนิทของเขานั่นเอง ไรน์ฮาร์ดหวังว่าเขาจะสามารถไต่เต้าขึ้นไปให้ยิ่งใหญ่กว่าจักรพรรดิเพื่อให้พี่สาวกลับมาอยู่กับตนในท้ายที่สุด แอนิเมชั่นตอนนี้ลายเส้นต่างจากตอนอื่นมากเพราะใช้ลายเส้นจากหนังสือการ์ตูนค่ะ เนื้อเรื่องก็ล้อตามที่ปรากฏในหนังสือการ์ตูนด้วยเช่นกัน เนื่องจากฉบับการ์ตูนมีความเป็นดราม่าอยู่มาก ดังนั้น ตอนนี้จึงเป็นตอนที่ซาบซึ้งที่สุดสำหรับคนชอบบทซึ้งแน่นอนค่ะ

Legend of Galactic Heroes: Overture to a New War เป็น Movie ฉายในปี 1993 ความยาว 90 นาที เป็นการเล่าใหม่ในช่วง 2 ตอนแรกของเรื่อง แต่เพิ่มเติมปูมหลังในอดีตของยัง เวนลีอีกนิดหน่อยสำหรับแฟนคลับของเขาโดยเฉพาะ เนื้อหาซ้อนทับกับ My Conquest is the Sea of Stars OAV เรื่องแรกสุดเลยค่ะ เหมือนกันเปี๊ยบๆ ก็ไม่ผิด แต่มีการขยายความให้ละเอียดขึ้น งานภาพผ่านไป 5 ปีสวยและสบายตาขึ้นค่ะ แต่ดูทั้งสองตอนก็ไม่ผิดเพราะให้อารมณ์โบราณที่ต่างกันนิดหน่อย

Legend of Galactic Heroes Side Stories (ซีซั่น 1) บางทีก็เรียก Gaiden 1 หรือ A Hundred Billion Stars, A Hundred Billion Lights ค่ะ จำหน่ายในรูปแบบ OAV จำนวน 24 ตอนในปี 1998-1999 ช่วงแรกของซีซั่นเป็นการขยายความเรื่องราวในอดีตของไรน์ฮาร์ดกับซิกฟรีดช่วงเวลาก่อนจะเกิด 110 ตอน เป็นเรื่องของการเดินทางไปยังดาวเคราะห์น้ำแข็งและความเจ็บปวดที่ถูกทรยศ ผสมกับการต่อสู้อื่นๆ ตามประสาการ์ตูนสงครามค่ะ

Legend of Galactic Heroes Side Stories (ซีซั่น 2) บางที่เรียก Gaiden 2 หรือ Spiral Labyrinth จำหน่ายเป็น OVA จำนวน 28 ตอนในปี 1999-2000 เล่าเรื่องอดีตของยัง เวนลีบ้าง เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับ Gaiden 1 คือก่อน 110 ตอนนั่นเอง เรื่องนี้คือช่วงที่ยังเป็นวีรบุรุษแห่ง El Facile ส่วนไรน์ฮาร์ดก็ได้รับมอบหมายภารกิจแรกไปที่ Iserlohn แบบเดียวกับใน Gaiden 1 ยังมีเรื่องตามหลังจากนั้นอีกแต่คล้ายกับว่าจะเล่าไปทางไรน์ฮาร์ดมากกว่าหน่อย

ไว้งวดหน้ามาเล่าต่อถึงความยิ่งใหญ่ของเรื่องนี้ค่ะ

วันที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11138 มติชนรายวัน

ไม่มีความคิดเห็น: