11 ตุลาคม 2551

แมว Mix โทราจิและศิลปะการเล่าเรื่องแฟนตาซี

คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

เคยสังเกตไหมคะว่าบางครั้งเรื่องเดียวกัน แต่หากเป็นคนละคนนำมาเล่าต่อ เราจะเกิดความรู้สึกต่างกันค่ะ แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญขนาดไหน ถ้าคนเล่าเก่งเล่าให้ฟัง เราจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่น่าตื่นเต้นเหลือเกินและเกิดอาการ "อิน" ได้ไม่ยาก ในระหว่างที่คนเล่าเรื่องไม่เก่ง ต่อให้เอาแฮร์รี่ พอตเตอร์มาเล่าก็อาจกลายเป็นไม่สนุกไปได้ นักเล่าเรื่องเก่งๆ ในวงการการ์ตูนเรานิยมเรียกว่า "storyteller" ค่ะ

หนึ่งในสตอรี่เทลเลอร์ของวงการการ์ตูนผู้หญิงแนวแฟนตาซีต้องยกให้ "ทามุระ ยูมิ" ผู้โด่งดังจาก Basara และ 7 seeds ในอดีตค่ะ ผลงานใหม่ล่าสุดคือ "มหัศจรรย์แมว mix ผจญภัยโทราจิ" ซึ่งแม้ชื่อจะดูเมาๆ จนเดาไม่ถูกว่าเกี่ยวกับอะไร แต่เนื้อในอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้

เริ่มอ่านโดยมีความประทับใจเก่าๆ ของ อ.ทามุระอยู่เป็นทุน คือถ้าเรื่องนี้ไม่สนุกจะโวยให้น่าดูน่ะค่ะ

"ไพยัน" คืออัศวินผู้กล้าแห่งอาณาจักรหนึ่งในโลกแฟนตาซี งานหลักของเขาคือต่อสู้กับ "หนู" ซึ่งหนูในโลกนี้ไม่ได้น่ารักเหมือนมิกกี้เมาส์บ้านเรานะคะ แต่เป็นหนูที่มีความสามารถต่างๆ หลากหลาย ตั้งแต่ควบคุมความฝัน ใช้เวทมนต์ แน่นอนว่าหนูพวกนี้ชอบกินคนเป็นอาหารเสียด้วย ความที่เหล่าหนูเก่งกาจ มันจึงสาปให้สัตว์ต่างๆ ลุกขึ้นมาเดิน 2 ขาและพูดภาษาคนได้ซึ่งสัตว์เหล่านี้จะเรียกว่า "mix" และ "โทราจิ" คือลูกแมวตัวเล็กที่โดนสาปให้เป็นแมวมิกซ์เช่นกัน

ไพยันและโทราจิร่วมเดินทางเพื่อออกตามหาลูกชายของไพยันซึ่งถูกหนูแห่งเวทมนต์จับตัวไป นอกจากต้องต่อสู้กับเหล่าหนูที่มีความสามารถประหลาดระหว่างทางแล้ว ไพยันยังต้องต่อสู้กับตัวเองด้วยเช่นกัน เขาต้องดูแลลูกแมวอย่างโทราจิทั้งที่ตัวเขาเองไม่เคยแม้แต่ดูแลลูกชาย ทุกครั้งที่เขาไม่เข้าใจโทราจิ เขาก็ต้องเจ็บปวดเมื่อมองเห็นความจริงว่าเขาไม่เคยเข้าใจภรรยาและลูกชายด้วยเช่นกัน การตามหาลูกชายจึงอาจเป็นการตามหา "ความเป็นพ่อ" สำหรับไพยันด้วย เรียกว่าเป็นการเดินทางสู่วัยผู้ใหญ่ก็คงไม่ผิดค่ะ

ความสนุกของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่กฎเกณฑ์แปลกๆ ซึ่งถูกบัญญัติขึ้นในโลกแฟนตาซีเท่านั้น ดราม่าหลายตอนทำให้เราน้ำตาซึมเอาง่ายๆ เลยทีเดียว อย่างตอนหนึ่งที่ "หนูประภาคาร" ทำหน้าที่ส่องไฟนำทางให้ "เรือหนู" จับเด็กๆ ในหมู่บ้านไป โทราจิลอบเข้าไปในประภาคารแล้วจับภรรยาของหนูประภาคารออกมาเคี้ยวซะ ผลคือเมื่อแยกจากภรรยา หนูประภาคารก็ตาย เป็นความผูกพันของหนูสองตัวที่เหล่าหนูอื่นเห็นแล้วก็สงสาร แต่ไพยันซึ่งยังตื่นตระหนกไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขาวิ่งเข้าไปตามหาลูกชายจากบรรดาเด็กๆ ที่ถูกหนูเรือจับไปพร้อมกับ "ท่านเคานท์" สุนัข mix ซึ่งออกตามหาเจ้านายที่โดนหนูจับไปเช่นกัน

ท่ามกลางเด็กๆ ไพยันก็ระลึกได้ว่าเขาจะหาลูกชายเจอได้อย่างไรในเมื่อเขายังจำหน้าลูกชายไม่ได้ด้วยซ้ำ! เขาได้แต่บอกโทราจิให้ช่วยหาแทน ส่วนท่านเคานท์ดมกลิ่นแล้วก็ทราบว่าเจ้านายไม่ได้อยู่ที่นี่มาก่อนแน่แม้ว่าจะมีกองกระดูกของเด็กๆ กองอยู่ นั่นก็เพราะต่อให้เหลือแต่กระดูก ท่านเคานท์ก็ยังจำเจ้านายของตัวเองได้เสมอ ตรงนี้ทำให้ไพยันยิ่งรู้สึกล้มเหลวในความเป็นพ่อของตัวเองยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

ระหว่างที่โกรธแค้นเหล่าหนู ไพยันเดินทางต่อไปยังเมืองที่มีฝนพรำ เขาได้พบกับ "แฮมสเตอร์" ซึ่งเป็นนักข่าวและผลิต "หนังสือพิมพ์แฮม" ขนาดเล็กจิ๋วแปะไปตามฝาบ้านคนเพื่อแจ้งข่าวที่เกี่ยวข้องกับวงการหนูให้ชาวเมืองทราบ ไพยันได้เห็นการต่อต้านหนูอย่างสันติจากเหล่าแฮมสเตอร์ ทั้งที่ก็เป็นสายพันธุ์หนูเหมือนกันแต่ความคิดต่างกันก็ไม่จำเป็นต้องเห็นดีเห็นงามไปเสียทุกเรื่อง หลายอย่างที่เขาเคยเรียนรู้ด้วยสัญชาตญาณความเป็นมิตรศัตรูจึงต้องรีเซ็ตใหม่หมดและเปลี่ยนดวงตาให้มองคนอื่นอย่างสุจริตมากขึ้น

อ่านจนจบเล่มหนึ่ง รู้สึกเลยค่ะว่ามีธนูแล่นมาแทงหัวใจดังฉึกๆๆ ไม่หยุด เป็นการ์ตูนที่โดนใจมากๆ! ไพยันคือตัวแทนของการมองโลกในแง่ร้ายของมนุษย์ค่ะ และการตามหาลูกคือตัวแทนสัญชาตญาณด้านดีที่เขารู้แต่เพียงว่าต้องทำ เขาต้องตามหาลูกชายเพราะเขาคือพ่อที่ดี แต่เมื่อกลับมามองตัวเองยามผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เขาจึงเข้าใจว่าเขาไม่ใช่พ่อที่ดีเลยสักนิด การตามหาลูกชายจึงกลายเป็นการลบล้างความผิดของตัวเองที่เป็นพ่อไม่ได้ความ พร้อมๆ กับเรียนรู้ความผูกพันที่แท้จริงจากโทราจิและหลายคนรอบตัว

ไม่บ่อยนักค่ะที่จะเจอการ์ตูนแฟนตาซีที่อบอุ่นและดึงเราเข้าสู่อีกโลกหนึ่งได้อย่างน่าทึ่งขนาดนี้ ใครอยากเห็นเทคนิคการเล่าเรื่องของสตอรี่เทลเลอร์แนวหน้าของวงการการ์ตูน เรื่องนี้คือตัวอย่างที่ดีเลยค่ะ

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11173 มติชนรายวัน

ไม่มีความคิดเห็น: