22 มิถุนายน 2551

อัศวินดำ ทหารเอกนเรศวร


คอลัมน์มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

ตอนนี้ต้องยอมรับว่ากระแสพระนเรศวรมาแรงจริงๆ ค่ะ เฉพาะบนแผงการ์ตูนก็มีการ์ตูนประวัติศาสตร์รูปแบบต่างๆ ของพระองค์ดำออกมาให้เลือกมากกว่า 3 ปกเข้าไปแล้ว ทั้งรูปแบบอิงหนังสือเรียน มหากาพย์อิงประวัติศาสตร์ และแนวแฟนตาซี เรียกว่าเยอะจนไม่รู้จะเลือกหยิบเล่มไหนมาอ่านก่อนดี เอาเป็นว่าเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้เลือกเล่มที่สบายๆ อ่านได้เพลินๆ ก่อนดีกว่าค่ะ

"อัศวินดำทหารเอกนเรศวร" เล่มนี้เป็นการ์ตูนที่สร้างขึ้นจากนวนิยายของคุณภาสพันธ์ ปานสีดา นักศึกษาภาควิชาโบราณคดี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรซึ่งลงต่อเนื่องและมีผู้ติดตามมากมายทางเว็บไซต์เด็กดีดอทคอม เว็บไซต์ที่เปิดกว้างสำหรับนักเขียนมือสมัครเล่นทุกแนวให้ฝากผลงานขัดเกลาฝีมือจากบรรดาความเห็นของนักอ่านโดยตรง ไม่ต้องรอเขียนจบแล้วเสนอบรรณาธิการดังเช่นในอดีตอีกต่อไป

ผลงานภาพนั้นเป็นของการ์ตูนไทยสตูดิโอที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ค่ะ เรียบสวยไม่โฉ่งฉ่างแต่ซีนอารมณ์ทำได้เนียนดี เพียงแค่อ่านคุณสมบัติของทีมผู้สร้างก็เดาได้คร่าวๆ แล้วว่าการ์ตูนเรื่องนี้นอกจากอิงประวัติศาสตร์ได้แม่นยำแล้ว ยังสอดแทรกเรื่องราวการผจญภัยที่น่าระทึกใจไว้ด้วยแน่นอน

เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อ "หาญ" เด็กหนุ่มหัวแดงภาควิชาโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยนเรศวรได้เข้าร่วมโครงการขุดค้นซากพระบรมราชวังจันทน์ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของสมเด็จพระนเรศวรในอดีต ซึ่งหาญได้พบบานประตูของพระราชวังเข้าโดยบังเอิญ แต่ประตูนั้นกลับนำเขาย้อนไปเมื่อ 400 ปีก่อน ยามที่สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมไพร่พลเพื่อกอบกู้เอกราชจากหงสา หาญไปพักอยู่กับพ่อกำนันเพชรซึ่งเมื่อเด็กหนุ่มเริ่มฉายแววความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอดเพื่อกลับไปบ้านเกิดในยุคปัจจุบันให้ได้

กำนันเพชรจึงแนะนำว่าหาญต้องกลับไปพิสูจน์ที่ประตูพระราชวังจันทน์อีกครั้ง หนทางเดียวที่จะเข้าไปถึงประตูได้คือต้องเป็นขุนศึกชั้นยศเท่านั้น ประจวบเหมาะกับขณะนั้นสมเด็จพระนเรศวรมีรับสั่งให้จัดประลองเพื่อเฟ้นหาขุนศึกที่มีความสามารถ หาญและสหายสนิท "กล้า" จึงเข้าร่วมด้วย ระหว่างการประลองนั่นเอง หาญและกล้าได้พบกับ "ขุนนิลกาฬ" นายทหารผู้เก่งกาจและเห็นแววยอดฝีมือของทั้งสอง ขุนนิลเทียวไปเทียวมาบอกเคล็ดลับและขัดเกลาฝีมือให้

จนในที่สุดทั้งสองก็ได้รับเลือกเป็นขุนพลพระนเรศวรในที่สุด เล่มแรกจบลงตรงนี้ซึ่งเมื่ออ่านจบ ความรู้สึกที่พุ่งตรงมาคือ "สนุกแฮะ" การเขียนนิยายแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์นั้นแม้จะมองเผินๆ ดูแล้วไม่น่ายากเย็น แต่เมื่อพิจารณาดีๆ แล้ว การเขียนโดยที่ต้องยึดหลักความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นท้องเรื่องเดิม ภาษาถิ่นในยุคนั้น หรือแม้แต่วัฒนธรรมประเพณีโบราณไม่ใช่งานหมูเลย

นอกจากข้อมูลแน่นปึ้กแล้ว ความมีมิติของตัวละครและกระแสเรื่องที่ดำเนินอย่างเนิบนาบสลับอุปสรรคชวนให้ตื่นเต้นนั้นก็เป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งซึ่งทั้งคุณภาสพันธ์และการ์ตูนไทยสตูดิโอสร้างสรรออกมาได้อย่างน่าทึ่ง เป็นการ์ตูนไทยอีกเรื่องสนุกเลยล่ะค่ะ ภาษาไทยแบบโบราณตอนได้ยินในละครอาจจะไม่รู้สึกอะไรแต่ถ้าลองมาอ่านในการ์ตูนแล้วให้อารมณ์ไปอีกแบบเลย แต่สารภาพว่าที่สนุกที่สุดคือการ์ตูนแถมท้ายเรื่องซึ่งตัวเอกคือเหล่าขุนศึกนักวาดที่ถูกโจมตีด้วยต้นฉบับ 200 หน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ขุนศึกแห่งการ์ตูนไทยสตูดิโอจะเอาชนะหรือพลาดท่าเสียที คงต้องสนับสนุนการ์ตูนไทยด้วยการซื้อมาชมแล้วล่ะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: