22 มิถุนายน 2551

ฮันโซ ยอดกุ๊กสมองเพชร


คอลัมน์ มหัศจรรย์การ์ตูน
โดย วินิทรา นวลละออง

วันนี้อยากกินจิราชิซูชิจังเลยค่ะ สาเหตุของความอยากก็ไม่เคยหนีพ้นการ์ตูนอาหารเลยสักครั้ง อ่านการ์ตูนเกี่ยวกับอาหารก่อนนอนทีไรเป็นต้องเห็นภาพของกินตามมาหลอกหลอนทุกครั้ง "ฮันโซ ยอดกุ๊กสมองเพชร" เป็นการ์ตูนอาหารที่ฉีกแนวนิดๆ แต่อุดมการณ์เหมือนเดิม คือ "อาหาร" ไม่จำเป็นต้องสร้างจากวัตถุดิบชั้นเลิศ แต่กำเนิดจาก "ฝีมือ" ต่างหาก...ประมาณนั้น

ที่ว่าฉีกแนวเพราะคุณฮันโซพระเอกของเรื่องไม่ใช่พ่อครัว แต่เป็นเจ้าของร้านขายของเก่าค่ะ ความที่เขามองเห็นคุณค่าในสิ่งของที่แม้เคยผ่านมือชาวบ้านมาแล้ว ประกอบกับพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ เขาจึงรับหน้าที่พ่อครัวจำเป็นให้เพื่อนๆ อยู่ประจำ

ครั้งแรกที่ฝีมือของฮันโซเป็นที่ประจักษ์แก่นักอ่านคือ ครั้งที่ "ซากุระ" สาวน้อยคอลัมนิสต์เกี่ยวกับอาหารต้องขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่น่าเชื่อว่าอาหารพื้นบ้านหลายอย่างที่ฮันโซทำกลายเป็นอาหารรสเลิศที่คุ้นลิ้นอย่างไม่น่าเชื่อ อร่อยเสียจนซากุระตามตื๊อให้ฮันโซยอมเขียนเคล็ดลับอาหารของเขาเป็นตำราเลยทีเดียว

ในเล่ม 3 ซึ่งเป็นเล่มล่าสุด ปกหลังมีภาพอาหารตามสูตรของฮันโซที่ทำออกมาจริงค่ะ ปาดน้ำลายหนึ่งครั้งประเดิม มีตอนหนึ่งที่น่าประทับใจคือเมื่อครั้งฮันโซไปเยี่ยมเพื่อนที่สถานีโทรทัศน์ เขาพบกับพิธีกรรายการอาหารชื่อดังซึ่งชำนาญสูตรอาหารราคาประหยัด จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษารายได้น้อยและไร้ฝีมืออย่างกว้างขวาง

ฮันโซลองฟังสูตรอาหารที่ซากุระเล่าแล้วก็รู้สึกแปลกนิดๆ แต่เขาไม่ได้ติดใจอะไรจนกระทั่งคุณพิธีกรชื่อดังโยนกล่องข้าวสำเร็จรูปทิ้งถังขยะ! จริงอยู่ว่าข้าวกล่องเหล่านี้ปรุงรสจัดจ้านเพื่อกลบความไม่สดของวัตถุดิบซึ่งฮันโซไม่ชื่นชมเท่าไร แต่ความที่เป็นพระเอก เขาจึงลุกขึ้นมาพิสูจน์ว่าอาหารไม่อร่อย เย็นชืด และเต็มไปด้วยผงปรุงรสก็อร่อยขึ้นได้เหมือนกัน

เขาเริ่มจากการสับวัตถุดิบทั้งหมดเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับน้ำส้มสายชูญี่ปุ่น และโยนข้าวแข็งๆ ลงไป กวนไปกวนมาก็กลายเป็นจิราชิซูชิแสนอร่อยได้เหมือนโม้!! แต่การทำให้ของที่ทิ้งลงถังขยะกลับมาอร่อยได้อีกกลายเป็นการตบหน้าพิธีกรผู้โด่งดังไปเสียแทน เขาท้าทายฮันโซให้ปรุงอาหารแข่งกันอีกครั้งออกอากาศ ซึ่งฮันโซก็รับคำท้า

ความสนุกอยู่ต่อจากตรงนี้ล่ะค่ะ คุณพิธีกรทำสปาเกตตี้ซีฟู้ดจากอาหารทะเลแช่แข็งกับผงปรุงรสแสนจะง่าย ส่วนฮันโซกลับนำปลาเพียงตัวเดียวมาประกอบอาหารได้ถึง 11 ชนิด! นอกจากได้ใช้ทุกส่วนแล้ว ยังสามารถเก็บไว้กินได้ 3-4 วันด้วยค่ะ ตอนจบฮันโซก็ได้รับคำชื่นชมไปตามระเบียบ

พออ่านถึงตรงนี้แล้วนอนขำอยู่บนเตียงเลยค่ะ ถ้าทุกคนนำปลาหนึ่งตัวมาทำอาหารอร่อยเทพได้ถึง 11 ชนิดเหมือนฮันโซ แล้วโลกนี้จะมีพ่อครัวไว้เพื่ออะไร ในทางกลับกัน แม้คุณพิธีกรผู้พ่ายแพ้อาจทำอาหารไม่ครบห้าหมู่ แต่เขาปรุงขึ้นอย่างง่ายๆ จากวัตถุดิบที่สำเร็จรูปโดยไม่ค่อยพึ่งฝีมือ ลองคิดย้อนมาที่ตัวเองซึ่งไร้ฝีมือการทำอาหาร ก็คงเลือกวิธีการของคุณพิธีกรมากกว่าค่ะ เพราะมีโอกาสทำแล้วได้กินมากกว่าทิ้งเยอะเลย

การ์ตูนทำอาหารโดยเฉพาะแนวคุกกิ้งแบทเทิ่ลที่มีการต่อสู้เพื่อแพ้ชนะ ในบางครั้งก็จงใจจูงผู้อ่านไปสู่บทสรุปผ่านมุมมองเพียงมุมเดียวค่ะ นั่นคือพระเอกชนะ พระเอกคือความถูกต้อง ตัวโกงผิดเสมอ ไม่ใช่ไม่ดีนะคะ แต่นี่คือ "การ์ตูนสำหรับเด็ก" ค่ะ

การ์ตูนที่เหมาะสำหรับเด็กจะมีจุดเด่นที่แบ่งคนดีกับคนไม่ดีอย่างชัดเจน พฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับ (เช่น ดูถูกผู้อื่น ทิ้งขว้างอาหาร) จะอยู่ในคนเลวทั้งหมด ในทางกลับกัน คนที่เป็นพระเอกอาจไม่ใช่คนเก่งที่สุด แต่ต้องมีคุณธรรมและไม่นิ่งเฉยกับความผิด บทสรุปของการ์ตูนแบบนี้มีเพียงอย่างเดียวเสมอคือ พระเอกชนะ สิ่งใดที่เป็นเรื่องเชิงวิเคราะห์ล้ำลึกจะถูกมองข้ามไป เพราะเด็กไม่เข้าใจค่ะ การ์ตูนเหล่านี้ไม่ได้ต้องการให้เข้าใจมนุษย์ทุกคน แต่ต้องการให้อ่านสนุก สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างค่านิยมที่ถูกต้องให้กับเด็กเท่านั้นเอง

อยากจะชมเรื่องนี้ว่าน่าซื้อให้เด็กอ่านอยู่แล้วเชียว แต่ติดที่ต้นเรื่องเขียนเน้นความบ้าหน้าอกใหญ่ๆ ของผู้ชายเสียจนเกินงามก็เลยไม่กล้าแนะนำเต็มปาก เดาว่าต้นเรื่องคงอยากรับตลาดเด็กวัยรุ่น แต่เขียนไปเขียนมาเริ่มเหมาะกับเด็กเล็กจึงเบนเข็มแทนค่ะ

แต่สิ่งที่มั่นใจได้อย่างหนึ่งหลังอ่านคือ เกิดแรงบันดาลใจในการทำอาหารแน่นอน คิดแล้วอยากลองทำชีสกับไส้กรอกรมควันแบบฮันโซจัง (ไฟไหม้บ้านแน่)

ไม่มีความคิดเห็น: