
โดย วินิทรา นวลละออง
ชื่อ CLAMP กลายเป็นใบรับประกันไปแล้วค่ะว่าผลงานการ์ตูนที่ได้รับการออกแบบหรือสร้างสรรค์ขึ้นโดยกลุ่มนักเขียนหญิง 4 คนที่รวมตัวกันในนาม CLAMP จะเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและบอกถึงความเป็นตัวพวกเธอเอง นั่นคือพล็อตเรื่องมีเอกลักษณ์ แนวคิดอิงปรัชญา และทุกเรื่องสามารถยำรวมไว้ในจักรวาลแคลมป์ที่ให้ตัวละครจากต่างเรื่องเดินสวนไปมาในช่องเดียวกันอย่างไม่เคอะเขิน ผลงานของพวกเธอจึงพะยี่ห้อ "by CLAMP" ได้อย่างน่าภูมิใจค่ะ
โคบาโตะ" คือการ์ตูนอีกเรื่องที่ออกมาพักใหญ่ๆ แล้วของแคลมป์ มีผู้แปลเป็นภาษาอังกฤษให้อ่านฟรีทางอินเตอร์เน็ตมากมายก็ยังไม่เห็นสำนักพิมพ์ในไทยซื้อลิขสิทธิ์ไปเสียทีค่ะ จนกระทั่งมีสำนักพิมพ์ไพเรท (ไม่มีลิขสิทธิ์) ขอแซงพิมพ์ก่อนเลยต้องซื้อมาลองอ่านซักเล่ม แบบว่าอ่านเป็นภาษาอังกฤษก็ได้แต่ไม่อบอุ่นใจเท่าอ่านเวอร์ชั่นภาษาไทยค่ะ

เวทีนี้มีพี่เลี้ยงเป็นตุ๊กตาสุนัขพันธุ์เดียวกับสนูปี้ที่ดุ โหด และเข้มงวดกับโคบาโตะมากค่ะ เขาชื่อคุณอิโอเรียวกิซึ่งมีหน้าที่ให้คะแนนสำหรับภารกิจต่างๆ ที่โคบาโตะทำ สิบตอนแรกเหมือนเป็นการปูเรื่องไปเรื่อยๆ โดยไม่เห็นจุดหมายชัดเจน คือแม่หนูโคบาโตะก็ปฏิบัติภารกิจช่วยคนตามประสาเธอไปเรื่อยๆ แล้วลงท้ายด้วยการโดนตุ๊กตาคุณอิโอเรียวกิดุเอาน่ะค่ะ จะรู้สึกตื่นเต้นก็ตรงชุดของโคบาโตะที่หลากหลายและน่ารักจนอยากลองใส่ดูบ้าง มีปมนิดๆ หน่อยๆ ถูกวางโปรยไว้เหมือนตะปูเรือใบ เหยียบแล้วยางไม่แตก แต่เหยียบเยอะๆ เข้าก็ชักน่าสนใจจนต้องหยุดมองว่าแคลมป์กำลังจะนำเสนออะไรให้เรากันแน่
จนจบเล่มหนึ่ง อืม...ก็รู้สึกว่าเริ่มมีมิติลึกล้ำมากขึ้น ปมถูกผูกไว้เป็นระยะอย่างแยบยล แต่...มันเหมือนไม่ใช่จุดเด่นของเรื่องนี้ค่ะ!!!

มีบางอย่างใน "โคบาโตะ" ที่แม้จะเรียบง่าย ลื่นไหล เนิบนาบหรืออาจเรียกด้วยภาษาชาวบ้านว่า "งั้นๆ" กลับทำให้รู้สึกว่าเปิดอ่านอีกกี่รอบก็สดชื่นค่ะ นั่งพลิกแล้วคิดอยู่หลายรอบมากจึงได้ข้อสรุปว่าเป็นเพราะ "รอยยิ้ม" ของโคบาโตะนี่เอง
สิ่งที่ชอบที่สุดของการ์ตูนเรื่องนี้และคิดว่าทำให้ดอกไม้เล็กๆ บานในหัวใจคือรอยยิ้มและความน่ารักของโคบาโตะนี่ล่ะค่ะ แม้เธอต้องใช้ความพยายามอย่างสูงในการ "ทำความดี" แต่เธอกลับแทบไม่ต้องใช้ความพยายามในการ "มองโลกในแง่ดี" เลย โคบาโตะไปทำงานพิเศษที่ร้านเค้กและได้ค่าจ้างเป็นขนมเค้กที่เธอต้องการ ใบหน้าและแววตาดีใจชวนให้ยิ้มตามจนแก้มป่องเลยค่ะ แต่พอเธอถือเค้กกลับบ้านก็เจอคุณแม่ที่สัญญาว่าจะซื้อเค้กให้ลูกชายแต่ซื้อไม่ทัน โคบาโตะจึงยกเค้กให้และมองดูหิมะด้วยรอยยิ้มเสียแทน อ่านแล้วก็ยิ้มตามจนแก้มป่องเริ่มปริ แม้ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นดังคาดหรือผิดหวัง โคบาโตะก็รู้จักเลือกมองสิ่งที่ทำให้จิตใจผ่อนคลายมากกว่าจะเก็บมาคิดแล้วปวดหัวไม่เป็นเรื่อง

สรุปว่าเป็นการ์ตูนขายรอยยิ้ม เหมือนเป็นรอยยิ้มกึ่งสำเร็จรูปบรรจุหนังสือการ์ตูนที่อ่านแล้วจะอยากยิ้มตามแล้วก็คิดในใจว่า "น่ารักจัง"
จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11096