
โดย วินิทรา นวลละออง
ต่อจากสัปดาห์ที่แล้วว่าด้วยแอนิเมชั่น (ภาพยนตร์การ์ตูน) ที่สร้างเมื่อปี 1997 โดยฮายาโอะ มิยาซากิและ Studio Ghibli ซึ่งเป็นแอนิเมชั่นที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในขณะนั้นและกวาดรายได้ถล่มบ๊อกซ์ออฟฟิศในญี่ปุ่นอย่างล้นหลาม การต่อสู้ของ 3 กลุ่ม ได้แก่ ธรรมชาติ, เหมืองแร่, และจักรพรรดิกลายเป็นนัยยะของการต่อสู้ระหว่างคนญี่ปุ่นยุคเก่าอนุรักษนิยม, คนญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ทั้งเป็นทุนนิยมและวัตถุนิยม, และต่างชาติที่แอบแฝงมาในรูปมิตรแต่แท้จริงกลับกดดันด้วยการขอร้องโดยเอาปืนจ่อหัว เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่ฝ่ายเหมืองแร่ซึ่งนำทีมโดย "เอโบชิ" ดูแล้วน่าจะเป็นฝ่ายธรรมะและผู้เสียผลประโยชน์ตอนต้นเรื่องกลับกลายเป็นฝ่ายที่รุกรานธรรมชาติจากการเป่าหูและหลอกใช้จากตัวแทนของจักรพรรดิ

การที่เอโบชิตัดสินใจเป็นศัตรูกับธรรมชาติเผยออกในตอนท้ายๆ ว่าเธอทำไปเพราะกลัวจักรพรรดินั่นเอง เธอปรารถนาจะทำธุรกิจอย่างสงบสุขต่อไปด้วยการหันไปแทงมิตรที่ไม่เคยให้โทษกับเธออย่างธรรมชาติและยอมปวารณาตัวเป็นข้ารับใช้คนที่หวังจะฆ่าเธอในตอนแรกอย่างจักรพรรดิเสียแทน เปรียบเหมือนเด็กรุ่นใหม่ที่ต่อว่าคนรุ่นเก่าว่า "หัวโบราณ" หรือ "ไม่ทันยุคสมัย" แล้วหันไปชื่นชมค่านิยมตะวันตกที่ทำงานแลกเงินและซื้อความสุขสบายด้วยเงินที่หามาค่ะ ฟังดูแล้วก็แฟร์ดีนะคะ แต่คนเหล่านี้ลืมคิดถึงตอนที่ตัวเองทำงานไม่ได้และกลายเป็นคนรุ่นเก่าบ้าง ถึงตอนนั้นเขาจะเรียกร้องอะไรจากเด็กยุคหลังในเมื่อตัวเองเป็นคนทำลายคุณค่าของตัวเองในอีก 50 ปีข้างหน้าไปเสียแล้ว

เกือบจะลืมกล่าวถึงความสำคัญของ "อาชิทากะ" พระเอกของเรื่องเสียแล้วค่ะ อาชิทากะน่าจะเป็นพระเอกไม่กี่คนของ Studio Ghibli ที่มีบทบาทมากกว่านางเอก แม้เขาจะไม่ได้มีเอกลักษณ์เป็นที่จดจำหรือดึงดูดให้เอาไปทำเป็นโปสเตอร์หนังเท่านางเอกอย่างซัน แต่นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วค่ะ อาชิทากะไม่ได้ปรากฏตัวในฐานะฮีโร่หรือต้องการให้คนจดจำ เขามาในฐานะ "ผู้ไกล่เกลี่ย" ซึ่งปลุกทุกคนให้มองเห็นความจริงว่าใครคือมิตรแท้และศัตรูจริงกันแน่ นอกจากนั้นอาชิทากะยังเป็น "ผู้ให้อภัย" เขามองเห็นว่าทุกคนมีเหตุผลที่ต้องทำผิดต่อผู้อื่น เขาไม่โทษใครเลยแต่เลือกที่จะช่วยทุกคนให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบค่ะ คนแบบนี้คือคนที่ผู้กำกับมิยาซากิเลือกให้มาปฏิวัติญี่ปุ่นนั่นเองคือนอกจากเก่งและมีคุณธรรมแล้ว ยังต้องกล้าหาญและมีดวงตาที่มองเห็นความถูกผิดอย่างชัดเจนด้วย

ฮายาโอะ มิยาซากิแห่ง Studio Ghibli จึงเป็นปราชญ์ผู้ทำให้มนุษย์มองเห็นคุณค่าในตัวมนุษย์ด้วยกันอย่างแท้จริงค่ะ
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11327 มติชนรายวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น